Page 13 - อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
P. 13
5
กลางมีรูปแบบการเดินทางที่ส าคัญ คือ สงครามครูเสด (ค.ศ. 1095-1291) ซึ่งในระหว่างการเดินทาง
ื่
เพอสู้รบนั้นต้องมีการเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ และซื้อของที่ระลึกเป็นพฤติกรรมที่เหมือนกับ
นักท่องเที่ยวทั่วไป และเป็นยุคที่อตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มเฟองฟอกครั้งหนึ่ง รวมถึงมีการใช้
ี
ุ
ื่
ู
ใบอนุญาตในการเดินทางเพอไปแสดงบุญ ในปีค.ศ. 1388 และปรรณพชร์ ฐิติธรรมเวทย์ (2560: 12-
ั
ื่
13) กล่าวว่า ศาสนาได้เข้ามามีบทบาทในการก าหนดการด าเนินชีวิตของผู้คนวันหยุด (Holy Days)
ื่
เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น คนชั้นกลางและชั้นสูงนิยมเดินทางเพอแสวงบุญในระยะทางไกลในเมือง
ต่าง ๆ ตามหลักฐานที่ปรากฏเป็นนิทานเรื่อง Canterbury’s tales ซึ่งนับได้ว่านักเดินทางต้องถือ
หนังสือเดินทาง (Passport) เป็นครั้งแรกของโลกอีกด้วย
ู
ื้
1.1.4 การท่องเที่ยวในยุคฟนฟศิลปะวิทยาการ (The Renaissance) เป็นยุคแห่งการค้นพบ
(Age of Discovery) เป็นยุคที่ต้องการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในโลกตะวันออก นักเดินเรือชาวยุโรปได้
เดินเรือเสี่ยงภัยเพอแสวงหาเส้นทางเดินเรือใหม่และค้นพบดินแดนใหม่ อีกทั้ง มีการส ารวจการ
ื่
เดินทางทะเล มีการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (Grand Tour) หมายถึง การท่องเที่ยวไปยังเมืองใหญ่หรือ
ส าคัญโดยเฉพาะในยุโรป โดยผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวขนาดใหญ่ไปยังแหล่งวัฒนธรรมจะท าให้เกิด
ความรู้สึกเป็นสังคมเดียวกับชนชั้นสูง หลังจากที่ชาวโรมันเข้ามารุกรานเกาะองกฤษในสมัยปี
ั
คริสต์ศักราช 43 ชาวโรมันได้เริ่มสร้างสถานอาบน้ าแร่แบบโรมัน (Roman spa) ที่เมืองบาธ และการ
ท่องเที่ยวชายทะเล (Seaside Tourism) ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลางศตวรรษที่ 18 นักท่องเที่ยว
นิยมอาบแดดและดื่มน้ าทะเลเพอรักษาโรคหลายชนิด ซึ่งข้อดีของการท่องเที่ยวชายทะเล คือ ทะเลไม่
ื่
ุ
มีขอบเขตจ ากัด สามารถขยายชายฝั่งได้ยาวและไกล (ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอตสาหกรรมการ
ท่องเที่ยว, ม.ป.ป.: ออนไลน์)
อีกทั้ง ลักษณะส าคัญของการท่องเที่ยวในยุคนี้ คือเกิดการพัฒนาทางด้านการค้า ผู้คนเริ่มใฝ่รู้
เกี่ยวกับเรื่องของยุโรปสมัยก่อน โดยเฉพาะชาวองกฤษที่ร่ ารวย นิยมส่งบุตรชายออกเดินทางไป
ั
ต่างประเทศพร้อมกับผู้สอนประจ าตัว (Travelling Tutors) เป็นระยะเวลา 3 ปี เรียกว่า “แกรนทัวร์”
ื่
อาจเรียกแกรนทัวร์ว่าเป็นการท่องเที่ยวเพอการศึกษาก็ได้ (เจษฎา ขวัญเมืองและคณะ, 2557:
ออนไลน์)
ุ
1.1.5 วิวัฒนาการของอตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18-19 สังคมเริ่ม
ั
เปลี่ยนจากเกษตรกรรมมาเป็นอตสาหกรรมเกิดการล่าอาณานิคมขึ้น ที่พกแรมได้รับการพฒนามา
ุ
ั
ตามล าดับ กลายมาเป็นโรงแรมแทนที่ต่าง ๆ การโยกย้ายถิ่นฐานไปยังดินแดนใหม่ ๆ นอกยุโรป อาทิ
ไปทวีปอเมริกา มีการพฒนาประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ า กับเรือกลไฟแบบกังหันข้างผสมใบ ท าให้เกิด
ั
การเดินทางได้เร็วขึ้น มีการพฒนากิจการรถไฟ และในปีพ.ศ. 2384 โทมัส คุก (Thomas Cook) ได้
ั