Page 103 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 103
หลวงพ่อเล่าต่อว่า ทีนี้ครั้งหนึ่งมีโยมคนหนึ่งที่อยู่เมืองราชคฤห์ อยากจะบวช มีร่างกายซูบ
้
ผอมก็ไปวัดเวฬุวัน พระพุทธเจาตรัสถาม “โยมมาทาอะไร” “ข้าพระพุทธเจ้าอยากจะบวช” “มีคน
บวชให้หรือยัง” “ไม่มีพระเจ้าข้า” พระพุทธเจ้าก็เรียกประชุมสงฆ์ พระภิกษุทั้งหลายมีใครระลึกถึง
์
ความดีของราธะพราหมณ์บ้าง พระสารีบุตรก็ตอบว่า เกล้ากระผมครับ ราธะพราหมณท าอะไรให้
เธอ ราธะพราหมณ์ได้ใส่บาตรให้ผมทัพพีหนึ่งครับผม โอ้ ข้าวแค่ทัพพีเดียวนี่นะ
ั
นั่นแสดงว่า พระสารีบุตรนึกถึงบุญคุณของโยมที่ใส่บาตรให้แก่ท่านเพียงทัพพีเดียว ท่านยง
จ าไม่ลืมเลย เมื่อเป็นเช่นนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสวาเธอจงบวชให้แก่ราธะพราหมณ์เถิด ต่อมาพระสารี
่
่
บุตรก็บวชให้ทานราธะพราหมณ์ เมื่อบวชแล้วขออนุญาตไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้เรียนกรรมฐาน
กับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ให้ระมัดระวังเรื่องมาร มารในที่นี้คือ “รูป เวทนา สัญญา สังขาร
วิญญาณ” คือ “ขันธ์ ๕” เป็นมาร ต้องดูแลให้ดี แล้วก็อย่าไปกังวลกับมันมากนัก รูปคือร่างกายของ
เราเป็นมาร มันขวางเราอยากจะสวดมนต์ โอ๊ย ไม่เอา เดี๋ยวไม่ได้ได้เล่นไลน์ เดี๋ยวไม่ได้เล่นเฟชบุ๊ก
เดี๋ยวไม่ได้เล่นเกม โอ๊ย มีธุระ แล้วก็ปวดเอว ปวดหลัง ปวดไหล่ มันจะมาละ นี่คือมาร เรียกว่า “ขัน
ธมาร” คือมารทเกิดจากรางกายของเรา
ี่
่
ถ้าหากว่าร่างกายของเราดี ไม่ป่วยไม่ไข้ ไม่เป็นอะไร มันก็เป็นกิเลสมาร คือ ความหงุดหงิด
ความเบื่อ ความกังวลใจ เรื่องการงาน เรื่องสามี เรื่องภรรยา เรื่องลูก หรือเรื่องโควิดที่เกิดขี้นนี้
ความกังวลอันนี้กเกิดจากจิตวิตกกังวลมากเกินไป ก็เป็นมารอย่างหนึ่ง ขัดขวางไม่อยากให้เราท า
ความดี เพราะฉะนั้น มารทั้งทางกายและทางใจ พระพุทธเจาอธิบายตั้งแต่ รูป เวทนา สัญญา
้
สังขาร วิญญาณ แล้วท่านก็ปลีกตัวออกไปปฏิบัติธรรม เมื่อปฏิบัติธรรม พระสารีบุตรก็สอนเดิน
จงกรม นั่งสมาธิ ในที่สุดท่านก็บรรลุเป็นพระอรหันต์
เมื่อบรรลเป็นพระอรหันต์แล้วก็มากราบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ถามว่า สารีบุตรลูกศิษย์
ุ
ของเธอเป็นอย่างไรบ้าง โอ้ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย แม้บวชอายุมากแล้วก็ยังเป็นคนว่าง่ายสอนง่าย
่
ไม่กระด้างกระเดื่อง เชื่อฟังทุกถ้อยค า แม้ต าหนิก็ไม่โกรธ พระพุทธเจ้าก็ตรัสวา ต้องเป็นอย่างนั้น
ภิกษุทั้งหลายต้องเอาแบบอย่างราธะพราหมณ์ พระสารีบุตรก็ปรารถนาดีจึงได้แนะน าพร่ าสอน จึง
กล่าวตักเตือน แม้กล่าวตักเตือนค าแรงบ้าง ค าเบาบ้าง ท่านก็ไม่โกรธแต่อย่างใด ก็ท าตามครูบา
อาจารยพร่ าสอนอย่างดี นี่คือราธะพราหมณ์ ที่ได้บวชและบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว
์
เพราะฉะนั้น การที่พระอาจารย์หลวงพ่อได้พูด ท่านก็บอกว่า เราก็ปรารถนาดีต่อลูกศิษย์ แม้
เราก็พูดค าแรง ๆ บ้างก็มี ทั้งนี้ก็เพื่อว่าต้องการให้ศิษย์นั้นเป็นคนดี มันก็ต้องมีดุกันบ้าง ถ้าไม่ดุมัน
ก็เกิดความเหลิง ไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพครูบาอาจารย์ มันก็จะขัดขวางในการประพฤติปฏิบัติธรรม
๑๐๓