Page 251 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 251
ไปค้าขายบ้านโน้นบ้านนี้เมืองโน้นเมืองนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ดูแลตัวเองฉันนั้น พระองค์จึงได้แสดงถึง
เรื่องทานะคาถา คือ การมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและสีลคาถาคือการมีวินัย ทาอย่างไรดีแล้วก็
ท าอย่างนั้น ท าให้เป็นปกติ อย่างเราเคยสวดมนต์ ๑๙.๐๐ น. เราก็ต้องมีวินัย ต้องมาสวดมนต์บอก
์
กับตัวเองว่าเวลา ๑๙.๐๐ น. เราต้องมาสวดมนต์กับคณะสงฆ์วัดเทพเจติยาจารย เราก็จะมาแล้ว นี่
คือมีวินัยก็คือศีลนั่นเอง คือรู้ระเบียบรู้วินัย ท าให้เป็นปกติเป็นนิสัยของเรา ทนี้สีลคาถาก็พรรณนา
ี
ถึงเรื่องการท าบุญ การให้ทาน มีอานิสงส์ทาให้เกิดในสุคติภูมิก็คือการท าให้สีเลนะสุคะติงยันติ จะ
ท าให้เกิดความสุข สีเลนะโภคะสัมปะทา ก็จะท าให้ร่างกายแข็งแรง สีเลนะนิพพุติงยัมปิ ก็ท าให้
ี
สุขภาพทางใจก็ไม่กังวล เรยกว่าระงับความฟุ้งซ่าน นี่คือการได้รักษาศีล การได้รู้จักมีจิตใจ
ี
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็จะท าให้จิตบุคคลนั้นมีความสุข เรยกว่าเข้าสู่ทางสวรรค์ ทีนี้ก็จะมาพูดถึงว่าการอยู่
ี่
คลองเรือนหรือการมีครอบครัว การมีภาระหน้าที่ทเยอะ มันก็จะท าให้โอกาสสวดมนต์ก็น้อย ท า
สมาธิก็น้อย หรือมาพิจารณาถึงเรื่องเกิดแก่เจ็บตายก็น้อย เพราะว่าเราหน้าที่การงานเป็นเรื่อง
ธุรกิจการงาน เรื่องท างานโน่นถึงจะได้มีก าไร บางคนนึกถึงวันที่ ๑ ถึงวันที่ ๑๖ ตัวไหนหนอ คนนั้น
คนนี้ก็ไปหาพญานาค ไปขุดต้นไม้บ้าง ไปหาแม่โน่นแม่นี้หรือว่าไปหาใครต่อใคร ใครจะใบ้เลขอะไร
หนอ นี่โอ้มันก็จดจ่อนั่นน่ะ นี่ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เขาเรียกว่าการสร้างความหวัง เมื่อมันออกมา โอ้
่
พลาดไปนิดเดียว แม้บางคนก็ถูก แต่ว่าร้อยคนถูกสัก ๒ คน ๓ คนเทานั้นแหละ ๘๐% ผิดทั้งนั้น
เพราะฉะนั้น อย่าเสี่ยงเลย ท่านจึงบอกว่าอบายมุขเป็นทางไปสู่ความฉิบหาย
ฉะนั้น เรามารักษาศีลของเราท าไปในทางถูกต้อง “อุฏฐานสัมปทา” รู้จักขยันหาธุรกิจ โน่น
ปลูกผักปลูกหญ้าหรือว่าทาธุรกิจส่วนตัว ครอบครัวของเราอันนี้จะเป็นทางที่ยั่งยืน ไม่ใช่นึกฝันเอา
ลม ๆ แล้ง ๆ ที่นี้มันก็เลยเป็นเหตุท าให้คนเรานี่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องตัวเองมากนัก เพราะฉะนั้น การได้
สวดมนต์นี่เอง เป็นการได้มาดูแลครอบครัวนี่ ถือว่าเปิดโอกาสให้มาดูแลสามี มาดูแลภรรยา มา
ดูแลลูก มาดูแลพ่อแม่ของเรา นี่คือโควิดมันสอนให้เราย้อนมาดูแลครอบครัวย้ อนกลับมาดูแลเรา
ว่าคนเรานี้จะก าหนดทิศทางชีวิตเราเป็นอย่างไร ถ้าชะล่าใจประมาทออกไปข้างนอก ไม่มีระเบียบ
ไม่มีวินัย คือเขาให้ใส่หน้ากากก็ไม่ใส่ เขาให้ป้องกันไปฉีดวัคซีนซิโนแวคอย่างนี้ เราก็ไม่สนใจไปฉีด
หรือไม่รู้จักป้องกันการกายของเรา พอเกิดแล้วนี่ คนใดคนหนึ่งติดเชื้อโรค เราก็ไม่ได้อยู่บ้านแล้วนะ
เราไปอยที่ไหนโน้น เราต้องไปอยู่โรงพยาบาลสนาม เที่ยวนี้ห่างพ่อ ห่างแม่ ห่างสามี ห่างภรรยา
ู่
เหมือนคนไม่รู้จักกัน จะไปเยี่ยมกันก็ไม่ได้ นี่ท่านทั้งหลายอย่าท าอย่างนั้น เท่ากับว่าเราก าลัง
ประมาท ที่นี้เรื่องการครองเรือนนี่มันก็มีภาระหน้าทเยอะ
ี่
๒๕๑