Page 378 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 378
เรื่องอดีตที่ผ่านมา มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป ถ้าคิดเอามาเป็นธรรมะได้ก็ยิ่งดี อะไรที่พอจะ
แก้ไขได้ก็รีบแก้ไข อะไรแก้ไขไม่ได้ก็ให้มันผ่านไป เพราะมันผ่านไปแล้วเอามาเป็นบทเรียน เอามา
์
เป็นอุทาหรณสอนใจตัวเอง ไม่อยากจะให้ความผิด พลาดนั้นเกิดขึ้นซ้ าแล้วซ้ าเล่า ถึงมันเกิดขึ้น เรา
ก็ต้องคิดว่า นั่นแหละทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นได้ และมันจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาของมัน
ส่วนอนาคตถ้าวิตกกังวลมากเกินไป กลัวมากเกินไป กังวลมากเกินไป อันนี้ก็จะท าให้เราเกิดโรค
่
ประสาทขึ้นมาได้ หรือวาเป็นโรคทางใจก็ไม่ดีอีก สิ่งที่พระพุทธเจ้าแนะน าก็คือ การระลึกรู้ลม
หายใจเข้าออก ไม่ต้องค านึงถึงอดีต ไม่ต้องเพ้อฝันถึงเรื่องอนาคต หายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ นี่
เรียกว่าเจริญธรรม ธรรมะคือสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งบวกหรือสิ่งลบ อย่างเราที่จะสวดมนต์
ในวันนี้ เรียกวา “บทพระอภิธรรม”
่
พระอภิธรรม คือ ธรรมะที่ยอดเยี่ยมที่พระพุทธเจ้าได้สอนให้แก่พุทธมารดา ทอยู่ที่สวรรค์ชั้น
ี่
ดาวดึงส์ พระองค์ทรงตรัสว่า “กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา” นั่นคือ “กุสะ
ี่
ลา ธัมมา” หมายความว่า สิ่งที่ทาให้เกิดบุญ “อะกุสะลา ธัมมา” คือ สิ่งทท าให้เกิดบาป สิ่งใดที่ท า
ให้เกิดบุญก็คือ พยายามทาจิตให้มันใส เช่น พูดดี คิดดี ท าดี สวดมนต์ นั่งสมาธิ รักษาศีล ล้วน
แล้วแต่เป็นการสร้างก าลังจิตที่ดีให้แก่ตัวเอง หรือไม่ต้องคิดปรุงแต่งอะไร แค่หายใจเข้าก็รู้ หายใจ
้
่
ออกก็รู้ นี่คือการสรางความดี ความดีนี้แหละมันจะเป็นบุญ ค าวา “บุญ” คือ ท าให้จิตใส จิตตื่น จิต
เบิกบาน และตรงกันข้าม ถ้าเรามาทาจิตของเราให้เศร้า ให้หงุดหงิด ให้เบื่อ ให้เซ็ง เรื่องโน้น เรื่อง
นี้ อันนี้เรียกว่า “อะกุสะลา ธัมมา” คือ ท าสิ่งทท าให้จิตของตัวเองกระวนกระวาย วิตกกังวล กังวล
ี่
็
ี่
มากเกินเหตุ และเป็นคนเครียด เป็นคนหงุดหงิด เปนคนเบื่อ เป็นคนเซ็ง ในทสุดความคิดนั้นแหละ
มันจะท าร้ายจิตของเราเอง เรียกว่า “อะกุสะลา ธัมมา” เราไม่ฉลาดคิด ไม่ฉลาดท า มันก็ท าให้จิต
เศร้าหมองได้ ท าให้จิตมืดมนได้ ท าให้จิตเป็นโรคประสาทอ่อน ๆ คือ กระวนกระวาย ฟุ้งซ่าน และ
ในที่สุดจิตนี้แหละมันจะไร้คุณภาพ คือ คุณภาพไม่ดี ก็ขี้วิตก ขี้กังวล สารพัดที่จะเกิดขึ้น นั่นแหละ
เราก าลังสร้างบาปให้แก่ตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงมาอยู่กับปัจจุบัน ทบอกว่าหายใจเข้าก็รู้ หายใจออก
ี่
ก็รู้ หายใจเข้าก็รู้ ทาได้แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว
เพราะฉะนั้น เมื่อพระพุทธเจ้าไปทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ให้แก่พุทธมารดาที่สวรรค์
ชั้นดาวดึงส์ นั้น ทรงตรัสเรื่องบาปเรื่องบุญนี้แหละ อะไรท าให้เกิดบาปอะไรทาให้เกิดบุญ ทีนี้เมื่อรู้
บาปรู้บุญแล้วก็มาแยกขันธ์ ๕ ร่างกายของเรานี้ประกอบด้วยขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญา
่
ขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ และส่วนใดบ้างที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย ทานก็ย้อนกลับไปถึงอดีต
่
อนาคต และปัจจุบัน จะละเอียด หยาบ หรือประณีต อยู่ไกลอยู่ใกล้ ก็พิจารณาให้ดีว่ารางกายส่วน
๓๗๘