Page 65 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 65

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “อกาลิโก” ทาเวลาไหนก็ดีเวลานั้น เมื่อเราท านึก “พุทโธ ๆ” หรือระลึกถึงลม
               หายใจเข้า หายใจออกก็ถือว่าดีแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สติปัฏฐาน ๔” คือ กายานุปัสสนาสติปัฏ

               ฐานนี้ การมีสติอยู่ที่กาย ยืน เดิน นั่ง นอน คิดค าพูดให้มีสติอยู่ตลอดเวลา ป้องกันไม่ให้ท าผิดนั้นเอง

               จะได้ท าถูกตลอดไป ถ้าพัฒนาได้อย่างนี้สติของเราก็จะมีพาวเวอร์ (Power) เรียกว่า “พละ” สติ

                                                                                                ี่
               พละ ก็จะท าให้เกิดการเตือน เมื่อเตือนมากขึ้น เมื่อเกิดการเตือนมากเข้าจะท าผิด การทจะท าผิดก็
               จะน้อยลงไป เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า“กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้มีสติอยู่ที่กายของ


               เรา” นี้คือการพัฒนา ถ้าทาได้อย่างนี้คือวอร์มอัพไปเรื่อย ๆ วอร์มอัพ วอร์มสติก็คือฝึกท าสมาธิ ถือ
               ว่าเข้าขั้นแล้ว  เวลาเรานั่งสมาธิกายก็ไม่เคลื่อนไหวมีแต่ลมหายใจเข้าออก  ตรงนี้จะล าบากจะ

                                                                                       ิ
               ควบคุมยาก  เพราะฉะนั้น  ถึงยากขนาดไหนเราต้องควบคุม  เพื่อการพัฒนาจตของเราให้ก้าวหน้า
               ต่อไป บัดนี้ได้เวลาแล้วก็ขอเชิญทุกทานกราบพระรัตนตรัยต่อไป สาธุ สาธ สาธ อนุโมทามิ
                                                 ่
                                                                                        ุ
                                                                                   ุ





                        ธรรมะบรรยาย                                                            ๐๒๔

                        ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
                                                                                       ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔




                                                              ่
                             ี่
                                                                                           ี่
                     จ านวนทเข้าร่วมสวดมนต์ในวันนี้ ๑,๑๑๑ ทาน ก็ขออนุโมทนากับทุกท่านทเข้าร่วมสวดด้วย
               ผู้ที่สวดเป็นกลุ่มเป็นคณะก็อนุโมทนาด้วย  การได้สวดมนต์ถือว่าเป็นการสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่
               ทุกครั้งทเราสวด จัดเป็นสมาธิแน่นอน ถ้าคิดแวบโน้นนี้ก็สวดไม่ทันแล้ว หรือสวดผิด พระอาจารย์ก็
                       ี่
               แวบไปบางครั้งก็มีก็แวบไปเหมือนกัน การสวดมนต์ถือเป็นการท าสมาธิเรียกว่า “สมาธิภาวนา” คือ

               เอาสิ่งที่ดี ๆ เข้าไปสู่จิต อย่างเช่น “อิติปิโสะคะวา” เข้าไปแล้วไม่ต้องดูหนังสือเลยมันอยู่ในจิต คือ

               มันเข้าไปแล้วมันอยู่ในจิตของเราแล้ว  อย่างเช่น  ในเรื่องของสามเณรที่อยู่ประเทศภูฏานนะ  บวช

               ระลึกชาติได้ว่าเคยเกิดเป็นพระเถระเป็นอาจารย์สอนที่มหาวทยาลัยนาลันทา  สามารถสวดมนต์ได้
                                                                       ิ
               คนศรีลังกาก็เหมือนกันเปนเณรสวดมนต์ได้แล้ว  ประเทศไทยก็มีสามเณรองค์หนึ่งชื่ออะไรไม่รู้สวด
                                       ็
               ปาฏิโมกข์ได้ นี้คือจ ามา คือเอาสิ่งดี ๆ ไว้ในจิต สามารถข้ามภพข้ามชาติได้เป็นอย่างนี้

                     วันหนึ่งพระอาจารย์ได้เข้าไปห้องพระอาจารย์หลวงพ่อ เจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวชิโรดม

                                                                                                      ่
               ท่านก็กวักมือ “มานี้มานี้” ท่านก าลังดูไอแพดอยู่ ท่านมีคอมพิวเตอร์ด้วย มีไอแพดด้วย แล้วทานก็


                                                           ๖๕
   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69   70