Page 89 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 89

เพราะฉะนั้น การสวดมนต์จึงเป็นประโยชน์ เป็นการสร้างบุญกุศลให้แก่ตนเองและเรายังเผื่อ

               แผ่ให้แก่คนอื่นได้ด้วย  เรามีคนรู้จัก  โอ้ที่วัดเทพมีการสวดมนต์นะ  ลองเข้าไปดูเฟซบุ๊กวัดเทพเราก็

                                                                      ี
               บอกเขาไป เราก็ส่งลิงค์ให้กัน เขาก็มาสวด ถ้าอย่างนี้เขาเรยกแนะน ากันในทางที่ดี เมื่อแนะน ากัน
               ในทางที่ดี คนนั้นก็ท าดี เราก็ท าดี หลาย ๆ คนท าดี มันก็เพิ่มพลังความดีมากขึ้น ๆ ที่เขาพูดบ่อย ๆ

               ว่าเอาน้ าดีมาไล่น้ าเสีย  เอาสิ่งที่ดีมาไล่สิ่งสกปรกก็คือความกังวลใจ  ความท้อแท้ใจ  ความหดหู่ใจ

               ความเสียใจ ความกังวลใจ อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เราก็มาสวดมนต์เข้า มานั่งสมาธิเข้า หรือว่าสวด

               มนต์บ่อย ๆ นั่งสมาธิบ่อย ๆ เท่ากับเติมน้ าดี ๆ เข้าไป เมื่อน้ าดีมีมากเท่าไหร่ มันก็ท าให้น้ าที่อยู่ใน

                          ี่
               จิตของเราทเรียกว่าน้ าขุ่น จิตมันขุ่น จิตมันเบื่อ จิตมันกังวล จิตมันวุ่นวายเรื่องโน้นเรื่องนี้ ค่อยจาง
                                                               ี่
               ไป ๆ ก็เลยกลายเป็นจิตใส พอจิตใสกลายเป็นบุญ ทบอกว่า “จิตใสเป็นบุญ จิตขุ่นเป็นบาป” แล้วก็
                                                                            ่
               ก าจัดจุดด าหรือว่าความขุ่นของจิตมันลดลงไป ๆ เมื่อลดลงมากเทาไหร่ ความใสของเพิ่มมากขึ้น ๆ
               อย่างเรามาสวดมนต์ร่วมกันนี่ เป็นการสวดให้แก่กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะประเทศไทยแล้ว

               ก็ยังเผื่อแผ่ไปทั่วโลกด้วย ยิ่งเกิดอานิสงส์อันยิ่งใหญ่

                     พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า “สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ” แปลว่า การให้ธรรมะเป็นทานย่อม

               ชนะการให้ทั้งปวง  หมายความว่า  เราให้ธรรมะคือการให้ค าสอนของพระพุทธเจ้าได้ขยายไปได้ทั่ว

                                                       ู
               โลกทั่วจักรวาล แล้วมันไปอย่างไร ไปตามยทูปไง ไปตามเฟชบุ๊กไง คนที่อยู่ที่อินโดนีเซียเขายังรับได้
               เลย คนที่อยู่ที่อเมริกาเขายังรับได้เลย กลุ่มรุ่งอรุณเขาก็อยู่อเมริกาโน่น เวลาของเขาช่วงนี้ก็อยู่คือตี

               ๔  ครึ่งหรือวาประมาณตี  ๕  ตอนเช้าเขาก็ตื่นขึ้นมาสวดมนต์ร่วมกับพวกเรา  ที่อินโดนีเซียเวลา
                            ่
               เดียวกัน ๑ ทุ่ม เขา ๑ ทุ่ม เราก็ ๑ ทุ่ม เวลาตรงกันเป๊ะเลย เขาก็มาสวดนี้ก็ไปได้ทั่วโลก ที่แคนาดา

               ก็ได้  ที่ฝรั่งเศสก็ได้  ที่อิตาลีก็ได้  สเปนก็ได้  หรือว่าเยอรมัน  มันไปได้ทั่วโลก  เพราะว่ามันมี

               อินเทอร์เน็ต มันก็เชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก

                     กระแสจิตของเราก็เหมือนกันมันเชื่อมโยงได้ทั่วจักรวาลเหมือนกัน ที่หลวงปู่มั่นพูด ท่านบอก

               ว่า การสวดมนต์ถ้าสวดเสยงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล ถ้าสวดมนต์เช้าเย็นธรรมดา
                                       ี
               มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล ถ้าสวดเต็มเสียง มีอานุภาพแผ่ไปได้ตลอดอนันตจักรวาล แม้

               สัตว์ที่อาศัยอยู่ใน ๓ ภพ และที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุขเมื่อได้แว่วเสียงพุทธมนต์ผ่านลง

               ไปแม้ขณะหนึ่งหรือครู่หนึ่ง  ยังดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลย  นี่หลวงปู่มั่นท่านพูด  เพราะว่าการสวด

               มนต์นี่มันเป็นพลังงาน ก็เหมือนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมันโยงใยไปทั่วโลก อันนี้กระแสจิตของคนเรา

               ก็โยงใยไปทั่วโลกไม่มีอะไรมากั้นได้  ยิ่งมีพลังจิตมากเท่าไหร่  ก็ยิ่งส่งพลังงานไปได้โน่น  แสนโกฏิ

               จักรวาลโน่นน่ะหรือก็ไปถึงอนันตจักรวาล อันนี้คือกระแสจิต นักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่า “NLP” ก็



                                                           ๘๙
   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94