Page 168 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 168
เพราะฉะนั้น จิตของเรานี่เวลาคิดมันเป็นกระแส มันเป็นคลื่น มันเป็นคลื่นไป มันเป็นกระแส
จิตไป เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่ามีใครมีจิตที่ละเอียดก็นั่งสมาธิ เวลามีใครคิดถึงมันก็จะรู้ว่ามันมีคลื่น
มาหาเรา ก็เหมือนเรามีโทรศัพท์มือถือ พอโทรศัพท์ไปหาคนนั้นมันก็จะดังกริ๊ง ๆ มันก็จะขึ้นทันที
โอ้ คนนั้นคนนี้โทรมาก็คุยกันรู้เรื่อง เพราะฉะนั้น เมื่อวานที่พระอาจารย์พูดถึงเรื่องหลวงพ่อปิ่น
ปัญญาพโล ที่คิดดูถูกหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นก็รู้อีก นี่คือเรื่องวาระจิต จิตของบุคคลที่ฝึกดีแล้วย่อมมี
กระแสจิตที่แก่กล้า ก็เหมือนเวลาเราทายใจเด็ก ๆ นี่ อย่างเด็กจะเดินไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ลูก ๆ
ของเรา หลาน ๆ ของเรา มันจะเดินไปโน่นเดินไปนี่ เราก็ทายใจมันออกได้ ก็เหมือนกัน อันนี้
ธรรมดา ๆ นะ ถ้าหากว่าเราฝึกจิตแล้วมันจะรู้มากกว่านั้น บางคนที่ฝึกสุนัขมั่ง ฝึกแมวมั่ง ฝึกสัตว์
ู้
เลี้ยงนะยังรู้ใจของสัตว์ต่าง ๆ เลย บางคนฝึกลิงก็รใจของลิง ฝึกสุนัขก็รู้ใจของสุนัข ฝึกแมวก็รู้ใจของ
แมว นี่เป็นสัตว์เดรัจฉาน มันยังรู้เลย
การฝึกจิตนี้เราต้องฝึกบ่อย ๆ พอฝึกมากเข้า ๆ จิตที่เคยขุ่น จิตที่เคยหงุดหงิด จิตที่เคยเบื่อ
จิตที่เคยเซ็ง จิตที่เคยกระวนกระวาย มันก็จะจางไป ๆ ในที่สุดมันก็จะเกิดเป็นจิตใส พอจิตใสมันก็
รับข้อมูล เป็นกระแสจิตที่ปราศจากสิ่งรบกวน ก็เหมือนเครื่องโทรศัพท์มีคลื่น อย่างคลื่นมีฝนตก มี
ฟ้าร้อง มีลมพัดอย่างนี้ มันไม่เสถียร สัญญาณไม่ดีก็รับไม่ได้ ขาดเป็นช่วง ๆ แล้วถ้าหากฝนไม่ตก ลม
ไม่พัดแรง มันก็ทำให้คลื่นมันเสถียรก็คือเต็ม พอเต็มแล้วก็รับได้อย่างดี อินเทอร์เน็ตก็รับได้อย่างดีก็
ส่งไปได้ทั่วโลก เช่นเดียวกับจิตของเราที่ปราศจากจิตขุ่น จิตหงุดหงิด จิตเบื่อ จิตเซ็ง จิตกังวลทั้งสิ้น
นี่ แต่ถ้ามันก็จะใส เวลาใครส่งกระแสจิตมันก็จะติ๊ด ๆ ขึ้นมาเลย
ื่
เพราะฉะนั้น เราควรฝึกจิตโดยการสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ทำอย่างนี้เรอยไป นี่คือเรา
กำลังสร้างมหากุศลอันยิ่งใหญ่ สรางให้ใคร สร้างให้ตัวเอง เพราะว่าเวลาเราสร้างขึ้นมาแล้วก็เผื่อ
้
แผ่ให้คนอื่นได้ด้วย เรียกว่าเมตตาธรรม พระพุทธเจ้ายังตรัสไว้ว่า “โลโก ปัตถัมภิกา เมตตา” โลก
จะตั้งอยู่ได้ต้องอาศัยเมตตาที่มีต่อกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีความใจร้ายต่อกันทะเลาะกัน สามี
่
ทะเลาะภรรยา ภรรยาทะเลาะสามี ลูกทะเลาะพ่อแม่ หรือวาใครต่อใครทะเลาะกัน ต่อยกันมีเรื่อง
กัน ฆ่ากัน ก็เพราะขาดความเมตตา พอขาดเมตตาก็เอาอารมณ์ที่โกรธ อารมณ์ชัง อารมณ์ที่โมโห
ทะเลาะกัน ในที่สุดก็ฆ่ากัน ในที่สุดก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรซึ่งกันและกัน ฆ่าล้างโคตรกันไปเรื่อย ๆ
อันนี้คือเกิดจากอารมณ์ที่ไม่ได้กรอง
หลวงพ่อบอกว่าอารมณ์นี่ไหลเข้าสู่จิตทั้งวันทั้งคืน มีทั้งอารมณ์บวกอารมณ์ลบ เมื่อเรามาทำ
สมาธิ เราจะต้องกรองอารมณ์ของเรา แต่กว่าจะกรองให้ดีนะ โอ้ อารมณ์ที่มันเข้ามาสู่จิตของเรานะ
มันเยอะ อารมณ์บวกอารมณ์ลบ ๆ มันเยอะมาก เมื่อมันเยอะมาก ๆ กว่าจะกรองให้สะอาดหรือว่า
๑๖๘