Page 64 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 64
้
ก่อนเยอะแยะ เราก็ย้อนมาดูตัวเราบางว่า เราเกิดมานี้เราทำประโยชน์อะไรบ้าง หลวงพ่อบอกว่า
ต้องทำประโยชน์ ๒ อย่าง ดังที่กล่าวมาแล้วคือ ประโยชน์ตน และประโยชน์คนอื่น เพราะฉะนั้น สิ่ง
้
ที่ควรทำอย่างยิ่งคือว่าเราสร้างความดีเอาเถอะ สรางความดีไว้ เพราะวันเวลาผ่านไป ๆ นี้ไม่
สามารถเอาคืนได้ดังที่กล่าวไว้แล้ว วันเวลาก็ไม่เป็นไร แต่ความแก่ชราของเรานี้ซิ สังขารร่างกายเรา
นี้ซิ มันมีความสำคัญมาก เมื่อมีความสำคัญ ก็ต้องดูแลร่างกายของเราให้ดี เมื่อเกิดทุพพลภาพหรือ
ว่าที่กำลังระบาดอย่างนี้ ก็คือเชื้อโควิด ทางเถรสมาคมก็ประกาศให้พระสงฆ์ได้สวดบทรัตนปริตร
ทุกวัด ทางวัดเทพเจติยาจารย์ก็จัดสวดทุกวัน เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายการได้กลับมาพิจารณา
ตัวเองและดูแลตัวเองจะได้ไม่ประมาท
แม้แต่พระพุทธเจ้าพระองค์ก็ตักเตือนพระอานนท์อยู่บ่อย ๆ ว่า “อานนท์เอ๊ย เธอนึกถึงความ
ตายวันละกี่หน” พระอานนท์กราบทูลว่า “นึกถึงความตายวันละ ๑๐๐ หน” พระพุทธเจ้ายังตรัส
ว่า “ประมาทอยู่เลย เธออย่าประมาทนะอานนท์นะ” พระอานนท์ทูลถามว่า “แล้วจะทำอย่างไร
พระเจ้าข้า” พระพุทธเจ้าตอบว่า “ต้องนึกถึงความตามทุกลมหายใจเข้าออก” พระพุทธเจ้าให้นึก
ถึงถึงลมหายใจเข้าออก ทุกลมหายใจเข้าออกหายใจเข้าก็รู้ หายใจออกก็รู้ ถ้าเข้าแล้วไม่ออกก็ตาย
ใช่ไหมละ ถ้าออกแล้วไม่เข้าก็ตายใช่ไหม พระพุทธเจ้าตรัสอย่างนั้น
ฉะนั้น การที่มีชีวิตอยู่นี้ต้องคำนึงว่าเราดีกับสามีหรือยัง ดีกับภรรยาหรือยัง ดีกับพ่อแม่หรือ
ยัง เราดีกับลูกหรือยัง ดีกับเพื่อนหรือยัง ดีกับพวกพ้องหรือยัง ดีกับผู้จัดการหรือว่าเจ้านายหรือยัง
พระสงฆ์ดีกับพระสงฆ์หรือยัง อันนี้เราต้องพิจารณา ทั้งนี้ก็ให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ไม่มีจิต
ที่คิดอาฆาตพยาบาทจองเวร มีแต่ความเมตตาความปรารถนาดี เพราะเมื่อละสังขารไปแล้วไม่มี
อะไรจะเป็นแก่นสาร ในโลกนี้เราก็ต้องเอาสิ่งที่ดีที่สุดคืออริยทรัพย์ไปกับเราข้ามภพข้ามชาติ นั่น
คือ “บุญ” บุญคืออะไร บุญคือการสวดมนต์นี้แหละ บุญคือการนั่งสมาธินี้แหละ บุญคือการ
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันนี้แหละ แค่เราให้แมสแก่กันมันก็ดีแล้ว หรือว่าให้รอยยิ้มแก่กันก็ดีแล้ว ทักทาย
แก่กันก็ดีแล้ว เป็นความยื่นไมตรีจิตให้กันและกัน เพราะสังคมจะอยู่ได้ด้วยความเมตตา แต่ถ้า
สังคมมีแต่ความอิจฉา พยาบาทจองเวร มีแต่ความใส่ร้ายป้ายสีกัน อันนั้นสังคมก็จะเดือดร้อน เรา
เห็นสัตว์ทั้งหลายทะเลาะกัน มาปัจจุบันนี้คนทะเลาะกันมากขึ้นกว่าสัตว์ ทำร้ายกันมากกว่าสัตว์
และก็รุนแรงด้วย เพราะสัตว์มีแค่เขี้ยวแค่เล็บประหัตประหารกัน คนนี้มีเครื่องทุ่นแรง เช่น สไน
เปอร์นี้ ระเบิดอย่างนี้ รุนแรงมาก
เพราะฉะนั้น เราก็พิจารณาว่าในโลกนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนดีหน้าตาเป็นอย่างไร คนไม่ดี
หน้าตาเป็นอย่างไรเราก็ดูไม่ออก อยู่ที่การกระทำของแต่ละคน การทำดีจึงไม่ต้องเลือกเวลา
๖๔