Page 85 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 85
ว่า “ไวรัสโคโรน่า” มันกระจายไปทั่วโลก และคนก็ป้องกันตัวเอง ต้องการอยากให้รอดพ้นจากโค
วิด แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นเราไม่เห็นตัวมัน เราก็ไปแหล่งที่สถานบันเทิงบ้าง ไปโรงพยาบาล ไปช็อบปิ้ง
ุ
ั
ตามห้างสรรพสินค้าบ้าง หรือว่าไปตลาด ไปทำธระของตัวเอง เราก็ไม่รู้ไม่เห็นหน้าตามันเป็นยงไง
โอ้ มาแล้วไอ้โควิดมาแล้ว มันจะได้หลบทัน อันนี้เรามองไม่เห็นมันน่ะ เมื่อมองไม่เห็นมัน ก็ยากที่จะ
่
ปกป้องหรือวาหลบหลีกมันได้ แต่เขาก็มีมาตรการว่าให้ใส่หน้ากาก เมื่อใส่หน้ากากเยอะ ๆ พอเรา
ยังจับโน่นจับนี่ จับสิ่งของโน่น สิ่งของนี้ จับปากา ดินสอ หรือวาจับโทรศัพท์ หรือว่าจับประตู
่
่
หน้าต่าง จับลิฟท์ขึ้น หรือว่าจับเครื่องใช้สวนตัว หรือของคนอื่น เราก็ต้องมาล้างด้วยแอลกอฮอล์
อันนี้เพื่อทำความสะอาดร่างกายของเรา เพราะว่ามือเราจับนี่มันอาจจะไปจับจมูกบ้าง จับปากบ้าง
หรือจับของใส่ปาก มันก็อาจจะเข้าไปในช่องปากของเรา มันก็จะเกิดอันตราย เพราะฉะนั้น เรามี
สเปรย์หรือว่าแอลกอฮอล์ไว้ประจำตัวดีที่สุด มันเป็นการป้องกันชนิดหนึ่ง เมื่อเขาวิจัยออกมาว่า
ไวรัสโคโรน่ามันก็ป้องกันได้ในระดับหนึ่ง อันนี้เขาหาวัคซีนได้ขึ้นมาหลายยี่ห้อแล้ว บางคนก็ฉีดไป
ได้เยอะ บ้างประเทศก็เปิดหน้ากากแล้ว อย่างประเทศอิสราเอลเขาก็เปิดหน้ากากแล้ว เขาว่าอย่าง
งั้น ประเทศไทยยังอยู่ในมาตรการที่ต้องใส่หน้ากากอยู่เราก็ต้องใส่หน้ากาก ทั้งนี้เราอาจจะ
ปลอดภัยดี แต่เมื่อเราชะล่าใจ โอ้ ไม่เป็นไรแล้ว เราก็ออกไปข้างนอกไม่ใส่หน้ากาก อันนี้โดนซิวนะ
หมายถึงโดนตำรวจจับนะ โดนเขาเตือนแล้วก็ยุ่งใหญ่ ไม่ว่าเราเป็นดารา เป็นนักร้อง เป็นผู้ใหญ่ ผู้
โต เราเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ต้องใส่หน้ากาก เราอย่าคิดอย่างนั้นเลย ถือว่าเราช่วยกันรักษาชาติ ช่วยกัน
รักษาความปลอดภัยให้แก่ตัวเองและสังคมดีกว่า อย่าให้เป็นพาหะแก่ผู้อื่นเลย ถ้าหากว่าเรา
ปลอดภัย สังคมและประเทศชาติก็จะสงบ ไม่ต้องเดือดร้อน ไม่ต้องไปหาวัคซีน ไม่ต้องใส่หน้ากาก
กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ั
เพราะฉะนั้น เราป้องกันไว้ก่อน ให้ไวรสโคโรน่ามันหายไปเองของมันเอง ให้มันหายไปเอง
เราป้องกันไม่ให้มันเข้า มันอยากจะเข้าก็เข้าไม่ได้ เพราะว่าเราป้องกันไว้ เราป้องกันใจของเรานี่
ด้วยการสวดมนต์ ไม่ให้หงุดหงิด ไม่ให้เบื่อ ไม่ให้เซ็ง มันก็แน่นอนละ มันจะหายเด็ดขาดไม่ได้ มันก็
ต้องป้องกันบ่อย ๆ การป้องกันนี้เอง จะทำให้เราปราศจากไวรัสโคโรน่าหรือว่าปราศจากความขุ่น
ของจิต มันก็จะทำให้จิตเราใสมากกว่าความขุ่น พระอาจารยจึงขอสรุปสั้น ๆ ว่า “จิตใสเป็นบุญ จิต
์
ขุ่นเป็นบาป” ต่อไปนี้ได้เวลาสวดมนต์แล้ว สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
๘๕