Page 88 - ธรรมะบรรยาย2564
P. 88
๐๓๕ ธรรมะบรรยาย
ท่านเจ้าคุณ พระราชปัญญาวชิโรดม
๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔
เจริญพรทุก ๆ ท่าน วันนี้ได้กลับมานำท่านทั้งหลายสวดรัตนปริตรอีกครั้งหนึ่ง วันนี้วันที่ ๑๓
ใช่ไหม อ้อ วันนี้วันที่ ๑๔ แล้ว เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ หลายท่านก็มานั่งเฝ้าว่า จะได้สวด
มนต์แล้ว ดีใจจังเลย ใจจดใจจ่อ มีความประสงค์อยากจะสวดมนต์ ที่เชียงใหม่ก็เหมือนกัน มีโยมวัด
เทพมาจากในเมืองเชียงใหม่ มาก็ใส่หน้ากากมาด้วย หลายท่านก็บอกพอสวดมนต์แล้วมันรู้สึกว่า
่
มันโล่ง มันโปร่ง มันสบาย มันมีความสุข เอิบอิ่ม ปีติ ว่าอย่างนั้น ทุกท่านก็ทราบวาการสวดมนต์
เป็นสมาธิภาวนา บุญเกิดขึ้นเพราะการสวดมนต์ สวดบ่อย ๆ ก็เกิดความเบิกบานใจ ความเอิบอิ่มใจ
แต่ว่ามันก็อยู่ไม่นาน เนื่องจากว่าพลังจิตที่เราได้นั้นมันไม่มากพอ มันได้ในระดับหนึ่ง ประมาณ ๒๐
%, ๓๐ % ๕๐ % ประมาณนี้แหละ เมื่อมันไม่มากก็อยู่ไม่ได้นาน เหมือนเราแต่งตัวนี่ แต่งตัวด้วย
ุ
เสื้อผ้าสวย ๆ หรือว่าแต่งหน้าแต่งตามันดูดี หน้าตาหล่อสวยทุกคน ก็มีความสขใจ มีความเบิกบาน
ใจ ส่องกระจกแล้วส่องกระจกอีก มองซ้าย มองขวา มั่นใจแล้วค่อยเดินออกมา มันก็เป็นความสุข
อย่างหนึ่ง ทีนี้ความสุขอันนี้ก็อยู่ไม่นานอีกแหละ อย่างมากวันหนึ่ง สองวันก็หายแล้ว
การสวดมนต์มันก็เหมือนกัน มันเป็นความทรงจำว่าเราเคยสวดมนต์ ทีนี้การสวดมนต์มันก็
ต้องสวดบ่อย ๆ อย่างพระสวดมนต์ทุกวันนี้ ก็สวดทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น แล้วมีตอนกลางวันด้วย
ี
บ่าย ๒ โมงอย่างนี่ เรยกว่า ๓ เวลาต่อ ๑ วัน ถ้าหากว่าเราทำไม่ได้ เราทำวันละครั้งก็ยังดี คือทุกวัน
่
๑ ทุ่ม เราก็มีนัดกันทางออนไลน์ เฟซบุ๊ก วัดเทพเจติยาจารย์ แล้วก็มารวมสวดมนต์ การสวดมนต์ก็
เลยเป็นการสะสมพลังจิต เจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณวิชิโรดม ท่านพูดบ่อย ๆ ว่า การสวดมนต์นี่
นะ อย่าประมาท มันเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เราสวด จิตของเรามีความตั้งมั่น จดจ่ออยู่
ในบทสวด เราจะไม่มีโอกาสได้วอกแวกไปทางไหน เมื่อจิตของเราจดจ่อตั้งอยู่ที่บทสวดมนต์ มันก็
เป็นสมาธิ เมื่อเป็นสมาธิสติปัญญาก็เกิดขึ้นด้วย ก็ระลึกรู้ว่าเราสวดอะไร สวดถึงไหนแล้ว ปัญญา
ของเราก็ตามมาอีก ถ้าถูกต้องแล้วเราก็สวดไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ความพากเพียรก็เกิดขึ้น ศรัทธาก็
ิ
เกิดขึ้น เขาเรียกว่า “วิรยะ” เมื่อมีวิริยะก็มีสติ เมื่อมีสมาธิ เมื่อมีสมาธิก็มีปัญญาและศรัทธาก็
ตามมาอีกด้วย
๘๘