Page 2 - 242 ธันวาคม63
P. 2
“ การศึกษาพัฒนาคน ”
นายธีระวัฒน์ อัตตโยธิน
กศ.บ, ศษ.ม. (บริหาร), ศศ.ม. (รัฐศาสตร์)
อาจารย์พิเศษ/ที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (ปราจีนบุรี)
นายคึกฤทธิ์ อัตตโยธิน ศศ.บ., ศศ.ม. (รัฐศาสตร์)
“เมตตา...กรุณา” ที่หายไป
้
ำ
บนโลกใบนี้ มีสิ่งมีชีวิต ที่เรียกว่าคน (มนุษย์) สัตว์เดรัจฉาน ต้นไม้ใบหญ้าและสิ่งไม่มีชีวิต ดิน นา อากาศ ซึ่งสัตว์โลกต่าง
พึ่งพากัน “มนุษย์” สัตว์โลกที่มีอำานาจเหนือกว่า จึงควรจะให้ “ความเมตตากรุณา” แก่สัตว์เดรัจฉานที่อ่อนด้อยกว่าทุกประการ
สังคมวันนี้ จากภาพและข่าวทางสื่อฯ จะเห็นการทารุณกรรมสัตว์ หรือฆ่าให้ตาย เพียงแค่อารมณ์โกรธ ไม่คิดเลยว่าสิ่งมี
ชีวิตทุกชีวิตจะมีความรู้สึกเจ็บปวดและกลัวตายเหมือนกัน
เมื่อครั้งพุทธกาล…
“พระสิทธัตถะ” (ก่อนตรัสรู้) ได้เสด็จจากนครราชคฤห์ตรงไปยังชนบทอันเต็มไปด้วยทิวเขาเป็นที่อยู่แห่งฤษีและมุนี
ทรงหวังที่จะศึกษาถึงความจริงเรื่องชีวิต เรื่องความตาย สิ่งชั่วร้าย ความทุกข์ทรมานอันเนื่องกันอยู่กับชีวิตนั้น
ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามหนทางเห็นฝุ่นฟุ้งตลบฟ้าลงมาจากภูเขา พร้อมทั้งเสียงกีบสัตว์จำานวนมากกระทบพื้นดิน
ครั้งใกล้เข้าไปก็ทอดพระเนตรเห็นแพะและแกะฝูงใหญ่ออกมาจากกลุ่มฝุ่นอันฟุ้งขึ้นดุจเมฆนั้น ฝูงสัตว์ที่น่าสงสารนั้นกำาลังถูกขับ
ต้อนไปทางในเมือง ตอนท้ายๆปลายฝูงอันยาวยืดนั้น “มีลูกแกะอ่อนตัวหนึ่งขาเจ็บเป็นแผล มีเลือดไหลโซมต้องพยายามโขยก
เขยกเดินไปตามฝูงด้วยความเจ็บปวดอันทรมาน”
เมื่อพระสิทธัตถะทอดพระเนตรเห็นลูกแกะตัวนี้ และสังเกตเห็นแกะที่เป็นแม่ของมันกำาลังเดินวกวนพะวงหน้าพะวงหลัง
เพราะมีลูกเล็กที่จะต้องห่วงหลายตัว “พระหฤทัยของพระองค์ก็เต็มอัดด้วยด้วยความกรุณา” พระองค์ทรงอุ้มลูกแกะแล้วเดิน
ตามฝูงแกะไปข้างหลังพลางตรัสว่า “สัตว์ที่น่าสงสารเอ๋ย ฉันกำาลังจะไปหาพวกฤษีบนภูเขา แต่มันก็เป็นความดีเท่ากับที่ฉันจะช่วย
บรรเทาความทุกข์ของเจ้า...”
สัตว์ทุกตัวนั้นจะถูกนำาเข้าประกอบพิธีบูชายัญ แต่พระสิทธัตถะก็ทรงได้ช่วยชีวิตพวกมันได้ โดยตรัสแก่พระเจ้าพิมพิสาร
ว่า “อย่าเลยมหาราช อย่าให้การบูชายัญเหล่านี้พร่าชีวิตสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านั้นเลย” แต่นั้นมาพระเจ้าพิมพิสารก็ห้ามมิให้ผู้ใด
ประกอบการบูชายัญด้วยสัตว์มีชีวิตอีกต่อไป ให้ใช้ดอกไม้ ผลไม้ ขนมหวาน และสิ่งอื่นๆ
พระองค์ทรงตรัสว่า “สัตว์ทุกตัวซึ่งมีชีวิต ย่อมรักชีวิต ย่อมกลัวต่อความตายเช่นเดียวกับมนุษย์ แล้วทำาไมมนุษย์จะมาใช้
กำาลังที่ตนมีเหนือสัตว์ผู้เป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งนั้น ให้เป็นไปในทางปล้นเอาชีวิตซึ่งเป็นที่รักของมัน ถ้าคนเรา
่
ำ
ปรารถนาจะได้รับความสุขด้วยตนเองในอนาคตแล้ว ก็ต้องไม่ทำาความทุกข์ให้เกิดแก่สัตว์อื่นแม้ที่ต้อยตาเพียงไร”
พระสิทธัตถะ หลังจากทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ทรงเผยแพร่ธรรมะจนล่วงสู่ปรินิพพาน พระองค์ทรงมี
้
“พระเมตตา กรุณา” ประทานให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างลาเลิศ จากเวลาล่วงเลยผ่านถึงพุทธศักราช ๒๕๖๓ ปัจจุบัน “พระเมตตา
ำ
กรุณา” อันเปี่ยมล้นก็คงอยู่ในบวรพุทธศาสนา ซึ่งมี “พระธรรม คำาสอน เป็นสรณะ”
ความเจริญของโลกก้าวหน้าไปมาก “สัตว์โลกที่ต่างต้องพึ่งพากัน” ก็นับเวลาลดความสำาคัญลงพร้อมกับด้านศีลธรรมก็
เสื่อมทรามถอยหลัง “วัฏจักรแห่งพุทธ” บ้าน สถานศึกษา วัด ชุมชนท้องถิ่น จะตอบคำาถาม “เมตตา กรุณา” ที่หายไปให้หวนคืน
กลับมาอยู่กับสังคมไทยได้อย่างไร
ทุก ๆ ท่านครับ อีกไม่กี่วันก็จะเปลี่ยนผ่านพุทธศักราชใหม่แล้ว คณะผู้จัดทำาวารสารฯ และผู้เขียนบทความทุกคอลัมภ์
่
ขออำานวยพรให้ผู้อ่านทุกท่าน จงประสบแต่ความโชคดี มีสุขภาพแข็งแรง รารวยเงินทอง ตลอดปี ๒๕๖๔ “สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๔ ครับ”
ำ
4 วารสารองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี