Page 4 - 242 ธันวาคม63
P. 4

“ พุทธวิถีไทย ”


                            ดร.กฤตสุชิน พลเสน

                            ศน.บ. ปรัชญา, M.A Philosophy, Ph.D.Philosophy
                            อาจารย์ประจำาหลักสูตร สาขาวิชาปรัชญา
                            บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

                            ‘อสีติมหาสาวก : ๘๐ พระอรหันต์’





            ตอนที่ ๑๓ พระมหากัจจายนะ
            พระมหากัจจายนะ  เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในพระอสีติมหาสาวกของพระโคตมพุทธเจ้า  ได้รับการยกย่องว่าเป็น
       เอตทัคคะในทางผู้อธิบายความย่อให้พิสดาร ในประเทศไทยนอกจากชื่อตามภาษาบาลีแล้ว ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ “พระสังกัจจายน์”

         หรือ  “พระสังกระจาย”  พระมหากัจจายนะเกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่งในกรุงอุชเชนี  ได้ศึกษาพระเวทตามอย่าง
       ตระกูลพราหมณ์ทั้งหลาย ท่านเป็นศิษย์ของอสิตดาบสแห่งเขาวินธัย (ผู้ทำานายว่าเจ้าชายสิทธิตถะจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

       หรือพระพุทธเจ้าในอนาคต)  พระมหากัจจายนะพร้อมด้วยมิตรอีก  ๗  คนได้อาราธนาพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมเทศนา
       และได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในระหว่างฟังธรรมนั้นเอง  หลังจากนั้นท่านจึงทูลขออุปสมบทต่อพระพุทธเจ้า  และได้
       เผยแผ่ศาสนาพุทธอยู่ในแคว้นอวันตีจนมีผู้เข้ามาเป็นสาวกในพุทธศาสนาเป็นจำานวนมาก  เมื่อครั้งพระพุทธองค์ ประทับอยู่

       ณ พระเชตะวันมหาวิหาร ทรงตั้งพระมหากัจจายนะไว้ในตำาแหน่งเอตทัคคะ เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในฝ่าย ผู้อธิบายเนื้อความ
       ย่อให้พิสดาร ท่านพระมหากัจจายนเถระ ดำารงอายุสังขารโดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

            มีเรื่องเล่าว่าพระมหากัจจายนเถระ  เป็นผู้มีรูปร่างสง่างามผิวเหลือง  ดุจทองคำาสะอาดผ่องใจ  เป็นที่ต้องตาถูกใจแก่
       ผู้พบเห็นทั่วไป  จนกระทั่งมีเหตุการณ์วิปริตเกิดขึ้นแก่บุตรเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองโสเรยยะ  ชื่อว่า  โสเรยยะ  เหมือนชื่อเมือง
                                                  ้
       ขณะที่เขานั่งบนยานพาหนะกับสหายเพื่อไปอาบนำาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย  ได้เห็นพระเถระกำาลังยืนห่มจีวร  เพื่อเข้าไป
       บิณฑบาตในเมืองแล้วเกิดความพอใจ  ในดวงจิตคิดอกุศลขึ้นว่า  “งามจริงหนอ  พระเถระรูปนี้  น่าจะเป็นภริยาของเรา  หรือ
       ไม่ก็ขอให้ภริยาของเรามีสีผิวกายเหมือนพระเถระนี้”  ด้วยอกุศลจิตคิดเพียงเท่านี้  ทำาให้เพศชายของเขาหายไป  กลายเป็น

       เพศหญิงไปทั้งร่างทำาให้เขาอับอายเป็นอย่างมาก  และโดยที่ไม่มีใครรู้เขารีบลงจากยานนั้นแล้วเดินตามกองเกวียนพ่อค้าไปยัง
       เมืองตักสิลา และได้เป็นภริยาของลูกชายเศรษฐีในเมืองนั้น อยู่ร่วมกันจนมีบุตร ๒ คน แต่เดิมทีที่เขาอยู่ในเมือง โสเรยยะนั้น
       เขาก็มีภริยาอยู่แล้วและมีบุตรด้วยกัน ๒ คน เช่นเดียวกัน จึงปรากฏว่าเขาเป็นทั้งพ่อและแม่ หรือเป็นทั้งผัวและเมียในชาติ

       เดียวกันนี้ต่อมา พระมหากัจจายนเถระ จาริกมายังเมืองตักสิลา โสเรยยะทราบแล้วจึงเล่าเรื่องราวของตนที่ผ่านมาให้สามีฟัง
       แล้วพากันไปกราบขอขมาโทษต่อพระเถระ  เมื่อท่านทราบเรื่องโดยตลอดแล้วก็ยกโทษให้  และเพศหญิงก็หายไปเพศชาย

       ปรากฏขึ้นมาเหมือนเดิม เขาเกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระเถระเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเห็นว่าตนเองเป็นคนแปลกคือเป็นทั้งชายและ
       หญิงในอัตภาพเดียวเท่านั้น  และยังคิดว่าไม่ควรที่จะอยู่ครองเพศฆราวาสต่อไป  จึงมอบบุตรทั้ง  ๔  คนให้บิดามารดาเลี้ยงดู
       ต่อไป  ส่วนตนเองได้ขอบวชในสำานักพระเถระ  และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในกาลต่อมาพระมหากัจจายนเถระ  นอกจาก

       จะมีเรื่องของโสเรยยะแล้ว  ยังมีเรื่องพระภิกษุเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เห็นพระเถระเดินมาแต่ไกลแล้วก็พากันกล่าวว่า
       “พระบรมศาสดาของพวกเราเสด็จมาแล้ว” แล้วพากันทำาความเคารพกราบไหว้ ทั้งนี้ก็เพราะท่านมีรูปลักษณ์ละม้ายกับพระผู้มี

       พระภาคนั้นเองพระเถระพิจารณาเห็นโทษเช่นนี้แล้ว จึงอธิษฐานจิตเนรมิตรร่างกายของท่านให้เปลี่ยนแปลงผิดแปลกไปจากเดิม
                                 ่
       ร่างกายที่เคยสง่างามก็ย่นย่อ ตำาเตี้ย ท้องป่อง หมดความสวยงามดังที่พุทธศาสนิกชนนิยมสร้างรูปท่านไว้เป็นที่สักการบูชาใน
       ทุกวันนี้










      6   วารสารองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี
   1   2   3   4   5   6   7   8   9