Page 17 - แผนการสอน 62-1
P. 17
ี
ี
ตัวชวัด สาระการเรยนรูแกนกลาง
้
้
ี่
ออกมา โดยระยะแรกจะอาศัยอาหารทสะสมภายในเมล็ด
์
จนกระทั่งใบแท้พัฒนา จนสามารถสังเคราะหด้วยแสงได้
เต็มทและสรางอาหารได้เองตามปกต ิ
ี่
้
ุ
ี่
็
ิ
ุ
14. อธบาย ความส าคัญ ของธาตอาหารบาง 16.พืชต้องการธาตอาหารทจ าเปนหลายชนดในการ
ิ
ิ
ี
ิ
ี
ิ
ิ
่
ิ
ชนดทมผลต่อการเจรญเตบโตและการ เจรญเตบโตและการด ารงชวิต
ี
ี
ด ารงชวิตของพืช 17. พืชต้องการธาตอาหารบางชนดในปรมาณมาก ได้แก่
ุ
ิ
ิ
๋
ี
ั
ุ
15. เลอกใช้ปยทมธาตอาหารเหมาะสมกับ ไนโตรเจน ฟอสฟอรส โพแทสเซยม แคลเซยม
ุ
ื
ี
ี
่
ี
่
ี
ิ
ึ
์
ี
่
พืชในสถานการณทก าหนด แมกนเซยม และก ามะถัน ซงในดนอาจมไม่เพียงพอ
ี
ี
ึ
ี
ิ
ั
ุ
ส าหรบการเจรญเตบโตของพืช จงต้องมการให้ธาตอาหาร
ิ
ุ
ู
๋
ในรปของปยกับพืชอย่างเหมาะสม
16. เลอกวิธการขยายพันธ์พืชให้เหมาะสม 18. มนษย์สามารถน าความรเรองการสบพันธ์ แบบอาศัย
ุ
ุ
ื
ื
้
ู
ื่
ุ
ี
ุ
กับความต้องการ ของมนษย์ โดยใช้ความร เพศและไม่อาศัยเพศ มาใช้ในการขยายพันธเพือเพิ่มจ านวน
์
ุ
่
ู
้
เกียวกับการ สบพันธของพืช พืช เช่น การใช้เมล็ดทได้จากการสบพันธแบบอาศัยเพศมา
ื
่
์
ื
ุ
ี่
ุ
์
ิ
ี
17. อธบาย ความส าคัญ ของเทคโนโลยีการ เพาะเล้ยง วิธการน้จะได้พืชในปรมาณมาก แต่อาจม ี
ี
ี
ิ
ี
เพาะเล้ยงเน้อเยือพืชในการใช้ประโยชน์ ลักษณะทแตกต่างไปจากพ่อแม่ ส่วนการตอนกิ่ง การปกช า
่
ื
่
ี
ั
็
่
ื
ี
ิ
ด้านต่าง ๆ การต่อกิ่ง การตดตา การทาบกิ่ง การเพาะเล้ยงเน้อเยือ เปน
ื
18. ตระหนักถง ประโยชน์ของการ การน าความรเรองการสบพันธแบบไม่อาศัยเพศของพืชมา
์
ุ
ึ
ื่
ู
้
ื
ี
ุ
้
ู
ขยายพันธ์พืช โดยการน าความรไปใช้ ใน ใช้ในการขยายพันธ์ เพื่อให้ได้พืชทมลักษณะเหมอนต้น
ี่
ุ
ุ
์
ชีวิตประจ าวัน เดม ซงการขยายพันธแต่ละวิธ มขั้นตอนแตกต่างกัน จง
ี
ึ
ี
ึ
ิ
่
ควรเลอกให้เหมาะสมกับความต้องการของมนษย์ โดยต้อง
ุ
ื
ึ
ื
ิ
ึ
ุ
ค านงถงชนด ของพืชและลักษณะการสบพันธ์ของพืช
19. เทคโนโลยีการเพาะเล้ยงเน้อเยือพืช เปนการน าความร ู ้
่
ื
็
ี
ี
่
็
่
ั
เกียวกับปจจัยทจ าเปนต่อการเจรญเตบโตของพืชมาใช้ใน
ิ
ิ
ิ
ิ
การเพิ่มจ านวนพืชและท าให้พืชสามารถเจรญเตบโตได้ใน
หลอดทดลอง ซงจะได้พืชจ านวนมากในระยะเวลาสั้น
่
ึ
ี
และสามารถน าเทคโนโลยี การเพาะเล้ยงเน้อเยือมา
่
ื
ประยุกต์เพื่อการอนรกษ์พันธกรรมพืช ปรบปรงพันธ์พืชท ี่
ุ
ุ
ุ
ั
ั
ุ
ี
มความส าคัญ ทางเศรษฐกิจ การผลตยาและสารส าคัญใน
ิ
ื่
พืช และอน ๆ