Page 9 - 3 แพลนเนท โครงงานประดิษฐ์ที่ตักใบไม้ในบึง 6-2
P. 9

น ้ำเสีย หมำยถึง น ้ำหรือของเหลวที่มีสิ่งเจือปนต่ำง ๆ ในปริมำณสูงจนกระทั่งเป็นน ้ำที่ไม่ต้องกำร และ

                   เป็นมลพิษทำงทัศนียภำพและก่อให้เกิดผลเสียหำยต่อสิ่งแวดล้อม โดยลักษณะของน ้ำเสียมีองค์ประกอบ
                   ต่ำงๆดังนี
                                                                                           ื
                   1.สำรอินทรีย์ ได้แก่ คำร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันเช่นเศษข้ำวก๋วยเตี๋ยวน ้ำแกงเศษใบตองพชผักชิ นเนื อฯลฯ
                   ซึ่งสำมำรถถูกย่อยสลำยได้โดยจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนท้ำให้ระดับออกซิเจนละลำยในน ้ำหรือดีโอ (DO,
                   dissolved oxygen) ลดลงเกิดสภำพเน่ำเหม็นได้ปริมำณสำรอินทรีย์ในน ้ำนิยมวัดด้วยค่ำบีโอดี (BOD,

                   Biochemical oxygen demand) เมื่อค่ำบีโอดีในน ้ำสูงแสดงว่ำสำรอินทรีย์ปะปนอยู่มำกและสภำพเน่ำ
                            ิ
                   เหม็นจะเกดขึ นได้ง่ำย

                   2.สำรอนินทรีย์ได้แก่แร่ธำตุต่ำงๆที่อำจไม่ท้ำให้เกิดน ้ำเน่ำเหม็นแต่อำจเป็นอันตรำยต่อสิ่งมีชีวิตท้ำให้เกิด
                                                                             ่
                   สภำพน ้ำปนเปื้อนหรือเป็นอุปสรรคในกระบวนกำรผลิตน ้ำประปำได้แกคลอไรด์ไนโตรเจน
                   ฟอสฟอรัสซัลเฟอร์ฯลฯ
                   3.โลหะหนักและสำรพิษอื่นๆอำจอยู่ในรูปของสำรอินทรีย์หรืออนินทรีย์และสำมำรถสะสมอยู่ในวงจร

                   อำหำรเกิดเป็นอันตรำยต่อสิ่งมีชีวิตเช่นปรอทโครเมียมทองแดงปกติจะอยู่ในน ้ำเสียจำกโรงงำน
                   อุตสำหกรรมและสำรเคมีที่ใช้ในกำรก้ำจัดศัตรูพืชที่ปนมำกับน ้ำทิ งจำกกำรเกษตรส้ำหรับในเขตชุมชนอำจ
                   มีสำรพิษนี มำจำกอุตสำหกรรมในครัวเรือนบำงประเภทเช่นร้ำนชุบโลหะอู่ซ่อมรถฯลฯ

                   4.น ้ำมันและสำรลอยน ้ำต่ำงๆเป็นอุปสรรคต่อกำรสังเครำะห์แสงและกีดขวำงกำรกระจำยของออกซิเจน
                   จำกอำกำศลงสู่น ้ำนอกจำกนั นยังท้ำให้เกิดสภำพไม่น่ำดูและอำจเกิดอันตรำยจำกอัคคีภัยได้ด้วย
                   5.ควำมร้อนท้ำให้เกิดกำรแบ่งชั น (Stratification) ของล้ำน ้ำเร่งปฏิกิริยำกำรใช้ออกซิเจนของจุลินทรีย์
                   และลดระดับของกำรละลำยของออกซิเจนในน ้ำอำจท้ำให้เกิดสภำพเน่ำเหม็นขึ นได้อุณหภูมิของน ้ำที่

                   เหมำะสมควรอยู่ประมำณ 25-35 องศำเซลเซียส
                   6.ของแข็ง (Solids) ประกอบด้วยสำรแขวนลอย (Suspended solids) ,ตะกอนหนัก(settleable solids)
                                                                                           ิ
                   และของแข็งละลำย (Dissolved solids) ซึ่งเมื่อจมตัวสู่ก้นล้ำน ้ำท้ำให้เกิดสภำพไร้ออกซเจนที่ท้องน ้ำท้ำ
                   ให้แหล่งน ้ำตื นเขินมีควำมขุ่นสูงมีผลกระทบต่อกำรด้ำรงชีพของสัตว์น ้ำและกำรน้ำน ้ำไปใช้ประโยชน์

                   7.สีและควำมขุ่นมักเกิดจำกอตสำหกรรมประเภทสิ่งทอกระดำษฟอกหนังและโรงฆ่ำสัตว์โดยสีและควำม
                                           ุ
                   ขุ่นจะขัดขวำงกระบวนกำรสังเครำะห์แสงในล้ำน ้ำ
                   8.กรดและด่ำงวัดโดยค่ำ pH (พีเอช) ค่ำพีเอชมำกกว่ำ 7 หมำยถึงควำมเป็นด่ำงค่ำพีเอชน้อยกว่ำ 7
                                                                    ี
                   หมำยถึงควำมเป็นกรดน ้ำสะอำดจะมค่ำพีเอชเท่ำกับ 7 ค่ำพเอชมีผลต่อกำรด้ำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในน ้ำ
                                                 ี
                   และกำรน้ำน ้ำไปใช้ประโยชน์ค่ำพีเอชของน ้ำทิ งที่เหมำะสมควรอยู่ในช่วง 5 ถึง 9
                   9.สำรก่อให้เกิดฟอง/สำรซักฟอกได้แก่ผงซักฟอกสบู่ฟองจะกีดกันกำรกระจำยของออกซิเจนอำกำศสู่น ้ำ
                   และเป็นอันตรำยต่อปลำ

                   10.จุลินทรีย์ (microorganism) น ้ำเสียจำกโรงฟอกหนังโรงฆ่ำสัตว์หรือโรงงำนอำหำรกระป๋องจะมี
                   จุลินทรีย์เป็นจ้ำนวนมำกจุลินทรีย์เหล่ำนี ใช้ออกซิเจนในกำรด้ำรงชีพท้ำให้สำมำรถลดระดับของดีโอในน ้ำ
                   ในระยะเวลำสั นได้ท้ำให้เกิดสภำพเน่ำเหม็นจุลินทรีย์บำงชนิดอำจเป็นเชื อโรคที่เป็นอันตรำยต่อประชำชน
                   เช่นจุลินทรีย์ในน ้ำเสียจำกโรงพยำบำล
                   11.สำรกัมมันตรังสีอำจมำจำกโรงพยำบำลหรือองค์กำรของรัฐบำงประเภทเป็นสำรอันตรำยเมื่อสะสมอยู่

                   ในสิ่งมีชีวิตก่อให้เกิดมะเร็งได้
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14