Page 30 - หนังสือประชุมวิชาการยาเสพติดแห่งชาติ 2568 ครั้งที่ 25
P. 30

การลดอ้นตรายจากการใชุ้ยาเสพติิดกลุ่มสารกระติุ้น
การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดกลุ่มสารกระตุ้น
น.พ. ภาสกร ชัยวานิชศิริ
ที่ปรึกษา สถาบันบ าบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี
ยาเสพติด เป็นปัญหาสังคมที่ทั่วโลกให้ความสนใจ นโยบายการแก้ปัญหาของหน่วยงานด้านยาเสพติด
ขององค์การสหประชาชาติ ( United Nation on Drug and Crimes: UNODC ) มีมาตรการตั้งแต่ต้นน้ ายัน
ปลายน้ า ปัญหาต้นน้ าที่ส าคัญ คือ แหล่งผลิต ทั้งแหล่งผลิตตามธรรมชาติที่ท าการเพาะปลูกพืชเสพติด และ
แหล่งผลิตที่ใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ตามมาด้วยการแพร่กระจายของยาเสพติดไปในทุกสังคม
ส่วนปลายน้ าที่ส าคัญ คือ ผู้ติดยาเสพติด ที่สร้างปัญหาต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม แนวทางการแก้ปัญหา
ปลายน้ าที่ส าคัญ คือ การป้องกัน และการให้โอกาสผู้มีปัญหาการใช้ยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบ าบัดรักษา
รวมถึงการให้การช่วยเหลือทางสังคมตามบริบทของแต่ละคน ในอดีตที่ผ่านมา มีความเชื่อที่มองว่า ผู้ติดสารเสพติด
ไม่สามารถควบคุมตนเองให้หยุดใช้สารเสพติดได้ ผ่านวาทกรรม “โรคสมองติดยา” แม้จะมีการพูดถึงบริบท
ทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้ยาก็ตาม แต่แนวทางการจัดการยังยึดหลักการการรักษาให้หายและ
ไม่กลับไปเสพซ้ าเท่านั้น (abstinence-based only treatment) เป็นเงื่อนไขที่ส าคัญก่อนกลับคืนสู่สังคม
เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาผู้ติดยาเสพติดได้ ความเชื่อนี้ยึดถือมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 แนวทางการจัดการ
ตามอนุสัญญาเดี่ยวระหว่างประเทศจึงดูเหมือนต้องใช้มาตรการบังคับ หรือกึ่งสมัครใจให้คนเหล่านี้เข้าสู่
กระบวนการบ าบัดรักษาให้หายและไม่กลับไปใช้ยาเสพติดอีก การพัฒนาระบบการบ าบัดฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด
ที่ริเริ่มโดยกลุ่มบุคคลที่มีประสบการณ์ในการเลิกสารเสพติด และน าวิธีดังกล่าวมาพัฒนา และจัดตั้งเป็น
สถานบ าบัดและฟื้นฟูก็ใช้แนวทางการบ าบัดฟื้นฟูให้เลิกการเสพติดและไม่กลับไปเสพสารเสพติดอีก เช่น กลุ่ม AA
(alcoholic Anonymous), NA (Narcotic Anonymous), ชุมชนบ าบัด (Therapeutic Community: TC)
แนวทางการบังคับเพื่อบ าบัดฟื้นฟูให้หายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีข้อจ ากัดอีกหลายประการ รวมถึงทางเลือก
ที่น้อย โดยเฉพาะเงื่อนไขการบ าบัดฟื้นฟูที่ผู้ใช้ยาเสพติดต้องปฏิบัติตามโดยอ้างข้อก าหนดของกฎหมาย
อย่างไม่สามารถต่อรองหรือบิดพริ้ว เป็นผลให้การบ าบัดฟื้นฟูมักไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้ยาเสพติด การรักษา
ที่เกินความจ าเป็น ปัจจัยอื่นๆที่ท าให้ผู้ใช้ยาเสพติดถูกละเลย ผู้ใช้ยาเสพติดถูกตีตรา และไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ในสังคมได้ การเข้าสู่กระบวนการบ าบัดฟื้นฟูเมื่อจ าเป็นจริงๆ ดูมีอุปสรรคเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมาย
ความส าเร็จของการดูแลผู้ที่ติดสารเสพติด คือ การเลิกเสพติดได้และไม่กลับไปเสพสารเสพติดเท่านั้น ท าให้ดู
ด้อยค่าและบดบังการประเมินความส าเร็จอื่นในการดูแลผู้ติดสารเสพติดเหล่านี้ที่นอกเหนือจากการเลิกเสพติดได้
เท่านั้น
โดยธรรมชาติวิทยาของการเสพติดนั้น วงจรชีวิตของผู้ใช้สารเสพติดส่วนใหญ่สามารถเลิกเสพติดได้เอง
(mature out) กลุ่มที่เลิกเสพยาเสพติดจากการบ าบัดฟื้นฟู (sustained remission) กลุ่มที่กลับมาใช้ยาเสพติดอีก
18




































































   28   29   30   31   32