Page 3 - ศิลปะดีเกฮูลู
P. 3
ความเป็นมาของดีเกฮูล 3 4
ู
็
ี
็
่
ี
ี
่
ี
ี
ี
มผู้ให้ทมาของดเกฮูลูเอาไว้หลายส านวน ในทน้จะขอหยิบยกออกมา 2 นอกจากน้ดิเกยังหมายถึงกลอนเพลงโต้ตอบ นิยมเล่ากันเปนกลุ่มหรือเปน
ี
ิ
ี
่
ี
ส านวน กล่าวคอ หนึ่ง ตามส านวนทรับร้กันโดยทัวไป มผู้ร้บางท่านได้ศึกษา คณะ โดยมไม้ไผ่มาตัดท่อนสั้นแล้วหุ้มกาบไม้ข้างหนึ่งท าให้เกดเสยงดัง แล้ว
ี
ื
ู
่
ู
่
ี
็
ี
่
ไว้ว่าดิเก (Dikir) มรากศัพท์มาจากค าว่าซี เกร์ ซึงเปนภาษาอาหรับ ร้องร าท าเพลงขับแก้กันตามประสาชาวปา (ว่ากันว่าไม้ไผ่หุ้มกาบไม้น้ได้
ี
็
ี
่
หมายถึงการอ่านท านองเสนาะ ส่วนค าว่าฮูลู แปลว่าใต้หรือทิศใต้ รวมความ กลายเปนบานอ หรือ รือปานา หรือร ามะนาทใช้กันมาจนทุกวันน้)
ี
แล้วหมายถึงการขับบทกลอนเปนท านองเสนาะจากทางใต้1 ท่านผู้ร้ยังได้ ประพนธ์ เรืองณรงค์ ได้ให้ความเห็นในเรื่องน้ว่า ดิเกน่าจะมาจาก
็
ู
็
็
ื
่
่
ี
ิ
ี
่
่
่
ี
กล่าวไว้อกว่า ลิเกฮูลูน่าจะเกดขึ้นเริมแรกทอ าเภอรามัน ซึงไม่ทราบแน่ว่าผู้ ความหมายทสอง คอกลอนเพลงโต้ตอบ นิยมเล่นกันเปนหมู่คณะ ซึงเปนการ
ี
ี
่
็
ริเริมน้คอใคร ข้อสนับสนุนกคอชาวปตตานเรียกคนในอ าเภอรามันว่าคนฮูลู ร้องเพลงล าตัดภาษาอาหรับ ทเรียกว่า "ซีเกร์มรฮาแบ" การร้องเปนภาษา
ี
่
ื
ี
ื
ั
็
่
ื
ื
ื
่
ื
่
ี
ในขณะทคนมาเลเซียเรียกศิลปะน้ว่า "ลิเกปารัต" ซึงปารัต แปลว่าเหนอ จึง อาหรับ ถึงแม้จะไพเราะแต่คนไม่เข้าใจ จึงน าเอาเน้อเพลงภาษาพ้นเมอง ซึงก ็
ี
็
ี
ั
ื
ี
ื
่
ื
เปนทยนยันได้ว่า ดิเกฮูลู หรือดิเกปารัตน้มาจากทางเหนอของมาเลเซียและ คอภาษายาวตเข้ากับร ามะนา จึงกลายเปน ดิเกฮูลูมาตราบเท่าปจจุบันและ
็
ี
ี
ี
ี
่
ี
็
้
ื
ื
่
ี
็
ทางใต้ของปตตาน2 ซึงกคอบริเวณอ าเภอรามัน จังหวัดยะลาและส านวนท ี ่ การแสดงประเภทน้น่าจะมขึ้นครั้งแรก ณ ท้องทเหนอล าน าอันเปนต้นก าเนิด
ั
้
่
่
ี
้
ั
ี
สอง จากการศึกษาของประพนธ์ เรืองณรงค์ ในหนังสอ "บุหงาปตตาน คติชน แม่น าปตตาน ซึงชาวบ้านเรียกฮูลู หรือทิศฮูลู (ฝายใต้ล าน าเรียกฮิเล) ตรงทิศ
ื
ั
ื
่
ี
็
ั
ไทยมุสลิมชายแดนภาคใต้"3 ค าว่าลิเก หรือลิเก ในพจนานุกรม Kamus ฮูลูเปนแหล่งก าเนิดฮูลูนั้น เข้าใจว่าคอท้องทอ าเภอมายอ จังหวัดปตตาน ี
และอ าเภอบันนังสตา อ าเภอเบตง จังหวัดยะลา
Dewan พิมพ์โดยสมาคมภาษาและหนังสอประเทศมาเลเซียเรียกลิเก
ื
็
็
ี
เปนดิเกร์เปนศัพท์เปอร์เซีย มสองความหมายคอ เพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า ดิเกฮูลูคณะหนึ่งๆ จะมสมาชิกประมาณ 10 กว่าคน เปนชายล้วน เปนผู้ขับ
ื
็
็
ี
็
ี
่
ี
ี
ื
ปกติเปนการขับร้องเนองในเทศกาลวันก าเนิดพระนะบมุฮัมมัด ชาวมุสลิม ร้องต้นเสยง 1-3 คน ทเหลอจะเปนลูกคู่ และอาจมนักร้องภายนอกวงมา
็
ื
่
ี
็
ี
่
ี
ิ
่
็
เรียกงานเมาลิด เรียกการสวดดังกล่าวน้ว่า "ดิเกเมาลิด" สมทบร่วมสนุกอกกได้ บทกลอนทใช้ขับร้องนั้น เรียกเปนภาษามลายูท้องถน
ี
ั
็
็
ี
็
นอกจากน้ดิเกยังหมายถึงกลอนเพลงโต้ตอบ นิยมเล่ากันเปนกลุ่มหรือเปน ว่าปนตน หรือปาตง เวลาแสดงใช้ขับกลอนโต้ตอบ ไม่ได้แสดงเปนเรื่องราว
ื
ื
่
ี
ี
ิ
คณะ โดยมไม้ไผ่มาตัดท่อนสั้นแล้วหุ้มกาบไม้ข้างหนึ่งท าให้เกดเสยงดัง แล้ว ดังเช่นการละเล่นพ้นบ้านอย่างอนเช่นมะโย่งหรือมโนห์รา
ี
่
ร้องร าท าเพลงขับแก้กันตามประสาชาวปา (ว่ากันว่าไม้ไผ่หุ้มกาบไม้น้ได้
่
ี
กลายเปนบานอ หรือ รือปานา หรือร ามะนาทใช้กันมาจนทุกวันน้)
ี
็
่
กอนหน้า ถัดไป