Page 102 - คู่มือติดต่อราชการฯ ภ.2
P. 102
89
สํานักงานอัยการสูงสุด
กรมอัยการได้สังกัดอยู่ในกระทรวงมหาดไทยมาตั งแต่วันที สิงหาคม ได้ก่อให้เกิดปัญหา
ข้อขัดข้องหลายประการ นอกจากนั นองค์กรอัยการในหลายประเทศได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญซึ งเป็น
กฎหมายสูงสุดของประเทศ เช่นเดียวกับองค์กรตุลาการ ในเอเซีย เช่น พม่า อินเดีย สาธารณรัฐประชาชน
จีน (จีนแดง) ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เช่น เมกซิโก เวเนซูเอลา เปรู ปานามา เอลซัลวาดอร์ โคลัมเบีย
อิเวคดอร์ โดมินิกัน คิวบา ฯลฯ กลุ่มประเทศสังคมนิยม เช่น สหภาพโซเวียต (ก่อนแยกเป็นรัฐอิสระใน
ปัจจุบัน) และประเทศกลุ่มบริวาร ของรัสเซีย (เดิม) ยุโรป เช่น สวีเดน เป็นต้น ฯลฯ
ดังนั นคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ จึงได้มีประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ
ฉบับที และฉบับที ลงวันที กุมภาพันธ์ แยกกรมอัยการออกจากกระทรวงมหาดไทย ไปเป็น
หน่วยงานราชการอิสระไม่สังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวงใด อยู่ภายใต้การกํากับ
ดูแล ของนายกรัฐมนตรีโดยตรง โดยเปลี ยนชื อจาก “กรมอัยการ” เป็น “สํานักงานอัยการสูงสุด” และเปลี ยน
ชื อตําแหน่ง “อธิบดีกรมอัยการ” และ “รองอธิบดี" กรมอัยการ” เป็น “อัยการสูงสุด” และ “รองอัยการ
สูงสุด” ตามลําดับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื อปรับปรุงระบบการบริหาร งานยุติธรรมในส่วนที เกี ยวกับ
งานอัยการให้มีความเป็นอิสระเพื อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที ยิ งขึ น และเพื อมิให้อิทธิพล
ทางการเมืองก้าวก่ายการดําเนินคดี ซึ งจะทําให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนโดยส่วนรวมยิ งขึ น
นอกจากนั นยังได้เปลี ยนแปลงโครงสร้างทางการบริหารงานบุคคลตาม “พระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการฝ่ายอัยการ 2521” ซึ งกําหนดให้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” เป็นประธาน ก.อ.
โดยตําแหน่ง โดยประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที ลงวันที กุมภาพันธ์
พ.ศ. และข้อ ได้แก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. กําหนดให้ประธาน
ก.อ. มาจากการเลือกตั งจากผู้รับบํานาญตามกฎหมายว่า ด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการซึ งเคยรับราชการ
เป็นข้าราชการอัยการมาแล้ว ในตําแหน่งไม่ตํ ากว่ารองอธิบดีกรมอัยการ หรือ รองอัยการสูงสุด หรือผู้ทรง
คุณวุฒิในทางกฎหมาย ซึ งเป็นผู้รับบํานาญตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จบํานาญข้าราชการ และเคยรับ
ราชการในตําแหน่งไม่ตํ ากว่าอธิบดีหรือเทียบ เท่าขึ นไป ทั งนี ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที พรรค
การเมืองในระยะเวลา สิบปีที ผ่านมาและไม่เป็นข้าราชการการเมืองหรือสมาชิกรัฐสภาหรือ ทนายความ