Page 294 - 2553-2561
P. 294

ค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๑๒๐/๒๕๕๗                   ศาลจังหวัดหนองคาย

                                                                                         ศาลปกครองอุดรธานี



                  พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
                  พระราชบัญญัติจัดตั้งสภาต�าบลและองค์การบริหารส่วนต�าบล พ.ศ. ๒๕๓๗

                  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์



                           คดีที่เอกชนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องเอกชนด้วยกัน เป็นจ�าเลยที่ ๑ และที่ ๒ และองค์การบริหารส่วน
                  ท้องถิ่น จ�าเลยที่ ๓ อันเนื่องมาจากกรณีจ�าเลยที่ ๑ น�าก้อนอิฐมาก่อเป็นแนวยาวบนถนนสาธารณะ ส่วนจ�าเลย

                  ที่ ๒ น�าโต๊ะมาชิดติดก�าแพงรั้วของโจทก์และช�าระล้างถ้วยจานใส่อาหารและทิ้งเศษอาหารลงบนถนนสาธารณะ

                  ท�าให้รั้วก�าแพงบ้านโจทก์เสียหาย พื้นถนนสกปรกและมีกลิ่นเน่าเหม็นของเศษอาหาร โจทก์แจ้งให้จ�าเลยที่ ๑
                  และที่ ๒ รวมถึงจ�าเลยที่ ๓ ซึ่งมีหน้าที่บ�ารุงรักษาทางน�้าและทางบก รักษาความสะอาดของถนน ทางน�้า
                  ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งการจ�ากัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ด�าเนินการท�าให้สภาพที่ดินดังกล่าวอยู่ในสภาพ

                  เรียบร้อยและสะอาด แต่จ�าเลยทั้งสามเพิกเฉย ขอให้บังคับจ�าเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง

                  และสิ่งของออกจากแนวรั้วก�าแพงบ้านโจทก์และปรับสภาพที่ดินให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เห็นว่า คดีนี้เป็นกรณี
                  ที่เอกชนฟ้องให้จ�าเลยทั้งสามรับผิดในมูลละเมิดจากเอกชนด้วยกันที่อยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ
                  ศาลยุติธรรม แม้โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวอ้างว่า จ�าเลยที่ ๓ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองละเลยต่อหน้าที่ตาม

                  กฎหมาย แต่โจทก์ก็ได้มีค�าขอให้บังคับจ�าเลยทั้งสามร่วมกันหรือแทนกันรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและสิ่งของออก

                  จากแนวรั้วก�าแพงบ้านโจทก์และปรับสภาพที่ดินให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย อันเป็นกรณีที่โจทก์มุ่งประสงค์ให้จ�าเลย
                  ทั้งสามร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากมูลละเมิดเดียวกัน ซึ่งการที่จ�าเลยที่ ๓ จะปฏิบัติตามค�าขอของ
                  โจทก์ได้ ก็จะต้องด�าเนินการไปตามข้อเท็จจริงที่รับฟังได้เป็นยุติในข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจ�าเลยที่ ๑ และ

                  ที่ ๒ ว่ามีการกระท�าละเมิดหรือไม่ ซึ่งเป็นกรณีที่มูลความแห่งคดีเกี่ยวพันกันกับจ�าเลยที่ ๓ ตามค�าขอของโจทก์

                  เป็นส�าคัญ ข้อพิพาทในคดีนี้จึงอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม




























                                                                   รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
                                                                                           พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑ 293
   289   290   291   292   293   294   295   296   297   298   299