Page 76 - 2553-2561
P. 76
ค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๓๗/๒๕๕๘ ศาลปกครองกลาง
ศาลแขวงเชียงใหม่
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ประมวลกฎหมายที่ดิน
คดีนี้แม้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๓ จะเป็นหน่วยงานทางปกครอง แต่ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า เป็นเจ้าของรวม
ในที่ดิน น.ส. ๓ ก. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ กระท�าการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและกระท�าละเมิดออกโฉนดที่ดินให้แก่
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ (ที่ธรณีสงฆ์) ทับซ้อนที่ดินของผู้ฟ้องคดี โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีเข้าร่วมในการรังวัด ขอให้
เพิกถอนโฉนดที่ดิน ส่วนผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ และที่ ๓ ให้การท�านองเดียวกันว่าการออกโฉนดที่ดินด�าเนินการ
ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ไม่ได้กระท�าละเมิด และผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ให้การว่า ตนเป็นเจ้าของ
กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท แต่ผู้อื่นออก น.ส. ๓ ก. ทับที่ดินของวัด ซึ่งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕
มาตรา ๓๔ ห้ามมิให้บุคคลใดยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้กับวัด ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ด�าเนินการออกโฉนดที่ดิน
โดยชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า คดีนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ให้การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท ดังนั้น การที่ศาลจะมี
ค�าพิพากษาหรือค�าสั่งตามค�าขอของผู้ฟ้องคดีได้นั้นจ�าต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของ
ผู้ฟ้องคดีตามที่กล่าวอ้างหรือเป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นส�าคัญ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอ�านาจ
พิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑ 75