Page 41 - รายงานประจำปี 2563
P. 41
ข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาล
ว่าด้วยวิธีการเสนอเรื่อง การพิจารณาและวินิจฉัย (ฉบับที่ ๗)
พ.ศ. ๒๕๖๔
ิ
ี
โดยท่เป็นการสมควรแก้ไขเพ่มเติมข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
ี
ี
�
ว่าด้วยวิธีการเสนอเรื่อง การพิจารณาและวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วย
�
ี
ั
ิ
้
ั
ั
ี
่
ิ
่
ี
ิ
การวนจฉยชขาดอานาจหน้าทระหว่างศาล (ฉบบท ๒) พ.ศ. ๒๕๖๔ และให้การพจารณาวนจฉยของ
ิ
ิ
คณะกรรมการเป็นไปโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อาศัยอ�านาจตามความในมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่
ี
ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล จึงออกข้อบังคับไว้
�
ี
ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลว่าด้วย
วิธีการเสนอเรื่อง การพิจารณาและวินิจฉัย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๔”
ข้อ ๒ ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในบทนิยามค�าว่า “พระราชบัญญัติ” ในข้อ ๓ แห่งข้อบังคับคณะกรรมการ
ี
ื
วินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล ว่าด้วยวิธีการเสนอเร่อง การพิจารณาและวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔
ี
�
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“พระราชบัญญัติ หมายความว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาล
ี
�
ี
พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ ๑๐ แห่งข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ
หน้าท่ระหว่างศาล ว่าด้วยวิธีการเสนอเร่อง การพิจารณาและวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ และให้ใช้ความ
ื
ี
ต่อไปนี้แทน
ื
ั
“เพ่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของเลขานุการ ให้ประธานแต่งต้งข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม
�
ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจานวนสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
คณะกรรมการ และในการปฏิบัติหน้าท่ตามวรรคหน่ง เลขานุการจะมอบหมายให้ผู้ช่วยเลขานุการหรือ
ึ
ี
บุคคลหนึ่งบุคคลใดด�าเนินการแทนก็ได้”
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของข้อ ๑๖ แห่งข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจ
ี
ึ
ิ
ื
หน้าท่ระหว่างศาล ว่าด้วยวิธีการเสนอเร่อง การพิจารณาและวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ซ่งแก้ไขเพ่มเติม
ี
ี
�
ื
โดยข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยช้ขาดอานาจหน้าท่ระหว่างศาลว่าด้วยวิธีการเสนอเร่อง การพิจารณา
และวินิจฉัย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำานาจหน้าที่ระหว่างศาล ๓๙