Page 157 - Book คู่มือดำเนินคดีเยาวชน
P. 157
156 คู่มือการด�าเนินคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๖๓
�
�
สานักงานคดียาเสพติด เคยมีความเห็นว่า สานวนคดีดังกล่าวอยู่ในหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูฯ
ื
ี
�
มาตรา ๑๙ ตามมติท่ประชุมสานักงานอัยการสูงสุด เร่องแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูฯ
ครั้งที่ ๑/๒๕๔๕ เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๔๖ และตามค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๗๔๗/๒๕๖๑
�
ื
ี
�
ี
๔. กรณีท่เด็กหรือเยาวชนถูกดาเนินคดีฐานเสพยาเสพติด และฐานอ่นท่มีโทษจาคุก
ซึ่งไม่เข้าหลักเกณฑ์ ตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูฯ มาตรา ๑๙ แต่พนักงานอัยการมีค�าสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง
ื
ผู้ต้องหาในความผิดฐานอ่นท่มีโทษจาคุกน้น คงเหลือเฉพาะฐานเสพยาเสพติด ข้อหาเดียว
�
ี
ั
�
ื
เดิมสานักงานคดียาเสพติด เคยมีความเห็นว่า พนักงานอัยการต้องย่นฟ้องศาลไปตามปกต ิ
เพราะไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม มาตรา ๑๙ มาตั้งแต่ต้น ตามมติที่ประชุมส�านักงานอัยการสูงสุด
ื
ั
ื
ี
่
ี
่
ึ
เร่องแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ฟื้นฟูฯ คร้งท ๑/๒๕๔๕ เม่อวันท ๓ เมษายน ๒๕๔๖ ซ่งสอดคล้อง
�
�
กับแนวทางปฏิบัติของสานักงานอัยการสูงสุด, คาพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดาท ี ่
�
�
ยส ๘๑๔๖/๒๕๖๐ คดีหมายเลขแดงท ๑๔๓๒๓/๒๕๖๐ (คดีของสานักงานอัยการจังหวัดแพร่)
่
ี
และแนวปฏิบัติของแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ ตามบันทึกลงวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑
ข้อ ๑๑ แต่มีค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๙๖๑/๒๕๖๑ และค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๖๖/๒๕๖๒
�
�
วินิจฉัยว่า กรณีดังกล่าวโจทก์ไม่มีอานาจฟ้อง ต้องแจ้งให้พนักงานสอบสวนดาเนินการให้
ี
ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดก่อน เพราะการท่พนักงานอัยการ
ั
มีคาส่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหา เท่ากับว่าโดยสาระแล้วผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เสพยา
�
�
�
เสพติดเพียงอย่างเดียว สานักงานอัยการสูงสุด ไม่เห็นด้วยกับคาพิพากษาฎีกาดังกล่าว จึงได้
่
ู
้
้
ิ
้
ั
้
ั
ื
่
�
ิ
ิ
ั
ั
่
ี
กาหนดแนวทางปฏบตในกรณดงกลาววา ใหพนกงานอยการยนฟองผตองหาฐานเสพยาเสพตด
ี
ี
�
�
ี
ต่อศาล และให้ดาเนินการขออนุญาตฟ้องด้วย คดีท่มีคาส่งฟ้องหรือคดีท่อัยการสูงสุดช้ขาด
ั
ั
ื
�
ให้ฟ้อง มีคาส่งอนุญาตให้ฟ้องผู้ต้องหาฐานเสพยาเสพติดไว้แล้ว ให้พนักงานอัยการย่นฟ้อง
�
ผู้ต้องหาต่อศาล หากศาลพิพากษายกฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอานาจฟ้อง ให้พนักงานอัยการพิจารณา
�
ื
ดาเนินคดีจนถึงท่สุด การขออนุญาตฎีกา ให้พนักงานอัยการย่นคาร้องไปพร้อมกับฎีกา
ี
�
ั
�
�
โดยคาขอน้นต้องแสดงชัดแจ้งและกะทัดรัดเพ่อให้เห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันสาคัญ
ี
�
ควรรับฎีกาของพนักงานอัยการไว้วินิจฉัย ตามหนังสือสานักงานอัยการสูงสุด ท อส ๐๐๐๗(พก)/ว
ี
่
่
๔๔๑ ลงวันท ๒๗ ธนวาคม ๒๕๖๒ แต่ต่อมามีคาพิพากษาศาลฎกาท ๕๓๗๗/๒๕๖๒ โดยมติท ่ ี
ี
�
ี
่
ี
ั
�
ิ
ื
ี
ั
ั
ุ
ิ
่
้
�
�
ประชมใหญ่วนิจฉยในทานองเดียวกันว่า เม่อโจทก์มคาสงเดดขาดไม่ฟองจาเลยในความผดฐาน
็
ื
อ่นแล้ว ย่อมมีผลเท่ากับว่าจาเลยต้องหาว่ากระทาความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเพียงฐาน
�
�
เดียว อันเป็นพฤติการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งท�าให้ไม่อาจน�าตัวจ�าเลยไปศาลภายในสี่สิบแปด