Page 134 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 134

66
มีรูปร่างของหน้า มีตา มีจมูกไหม หรือเขามีแค่ว่าง ๆ เบา ๆ ตรงนี้คือสังเกตว่า มีรูปร่างของหน้า ของตา ของจมูกไหม หรือมีแค่ว่าง ๆ แล้วส่วนอื่นของร่างกายล่ะ ส่วนสมองมีไหม ถ้ารู้สึกมันเป็นเงา ๆ เป็นครอบ เป็นก้อน ๆ อยู่ ลองเอาจิตที่ว่าง ๆ นี่นะ เข้าไปที่สมองให้ทะลุสมองไปเลย รู้สึกรูปร่างนั้นหายไปไหม หรือ ที่บริเวณสมอง รูปร่างของสมองจางไปบางไป หรือมันทะลุทะลวงโล่งไป ทะลุทะลวงไปแล้ว สมองรู้สึกเป็น อย่างไร
อาจารยค์ ดิ เอาเองนะ โยคลี องทาดู ทนี ลี้ องยา้ ยกลบั มา แลว้ สว่ นอนื่ ของรา่ งกาย ลองยา้ ยจติ ทวี่ า่ ง ๆ มาบริเวณหัวใจของเรา ไปที่แขนของเรา แต่ละข้าง ๆ ไปตรงไหน จุดนั้นมีรูปร่างไหม หรือว่าว่างไป เบาไป หายไป โล่งไป ใส ไล่เข้าไปทุกส่วนของร่างกาย เราทาแบบนี้ ลองดูว่า ขณะที่ใช้จิตที่ว่าง ๆ สารวจดูร่างกาย แบบนี้แล้ว ทาให้บริเวณร่างกายหรือจิตใจเรารู้สึกเป็นอย่างไร พอตัวว่างไปหมด ตัวมันเบาไป ว่างไป หาย ไป จิตใจรู้สึก สบายไหม ตรงนี้คือเห็นอะไร เห็นความว่างเปล่า เขาเรียกสุญญตา คือความว่างเปล่า ไม่เป็น รูปร่าง ไม่เป็นแก่นสาร ไม่เป็นสาระที่เรายึดได้เลย เป็นแค่อาการอย่างหนึ่ง
ตรงนี้เขาเรียกว่า เป็นการเพิกฆนบัญญัติ เพิกบัญญัติ คือความเป็นกลุ่มก้อนของรูปร่างหายไป เพราะฉะนั้น ตรงไหนที่บอกว่าเป็นตัวเรา อันไหนที่บอกว่าเป็นของเรา เป็นของว่างเปล่า ว่างเปล่าตรงนี้ บอกว่า เรายังไม่ต้องเดินทางไปถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก็ว่างเปล่าได้ ตรงนี้แหละว่างเปล่า ก่อนที่จะเจอ กับความไม่มีอะไรตรงนั้น ว่างตรงนี้จิตใจรู้สึกสบาย แต่ถ้าว่างจนที่รูปหายไป ผ่านกระบวนการผ่านไฟไป แล้วนี่นะ ถ้าใจไม่ว่างอย่างไรก็ไม่ว่าง ยังยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ อยู่
ทีนี้ พอเห็นแบบนี้ปุ๊ป ลองดูว่า แล้วเวลาเวทนาเกิดขึ้นมา เขาเกิดอยู่ที่ไหน เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ หรือ เปล่า เพราะฉะนั้นเวลาปวดเข่า เอาความรู้สึกว่าเป็นหัวเข่าออกไป เอาความรู้สึกว่าเป็นหัวเข่าออก ให้เหลือ แตเ่ วทนาทปี่ รากฏอยใู่ นทวี่ า่ ง ๆ ปวดหลงั เอาความรสู้ กึ วา่ เปน็ แผน่ หลงั ออกไป ใหเ้ หลอื แตเ่ วทนาทปี่ รากฏ อยู่ในที่ว่าง ๆ แล้วก็สังเกตอาการเกิดดับของเวทนา
ถ้าเป็นแบบนี้นี่นะ เราจะเห็นอาการเกิดดับได้ง่ายขึ้น เห็นคาว่าเวทนาเป็นของไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้ว ดับไป ไม่เที่ยงนี่นะ เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวแรงเดี๋ยวเบา เดี๋ยวเคลื่อนตรงนั้น เดี๋ยวเลื่อนตรงนี้ เดี๋ยวเปลี่ยน ตาแหน่งไป เปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็เกิดแล้วดับ มีแล้วหมดไป มีแล้วดับไป รู้อาการเกิดดับตรงนี้ นี่คือ เป็นการพิจารณาสภาวธรรมล้วน ๆ เป็นการพิจารณาสัจธรรม ถ้าเป็นแบบนี้จิตจะไม่ขุ่นมัว ไม่เศร้า หมอง จิตจะผ่องใส เพราะอะไร เพราะเราเห็นสัจธรรม จริง ๆ แล้ว ใช้คาว่าเราเห็น...ไม่มีเรา ไม่มีคาว่าเรา มีแต่สติ สมาธิ ปัญญา ที่เข้าไปรับรู้ ถึงความเป็นจริงข้อนั้น แล้วเป็นอย่างนั้น
พอเห็นแบบนี้ปุ๊ป คิดว่าอย่างไร ร่างกายนี่นะ เห็นไหม เราควรจะยึดได้นานแค่ไหน ยึดไม่ได้หรอก นะ...อาศยั ได้ ใหอ้ าศยั ใหเ้ กดิ ประโยชนต์ ลอดชวี ติ เรา ประโยชนด์ ที สี่ ดุ กค็ อื อาศยั รา่ งกายนนี่ ะ มาเปน็ อารมณ์ กรรมฐาน ปฏิบัติไป พิจารณาไป ดูว่าเขาเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ ทีนี้ลองดูนะ มีหลายคนกาลังปวดหัว มึน ๆ ใครรู้สึกแบบนั้น ลองดู เอาจิตที่ว่าง ๆ นี่นะเข้าไป ว่าง ๆ แล้วเข้าไปให้ทะลุสมอง แผ่ออกไปให้หมด กว้าง ๆ ออกไป เข้าไปจิตที่ว่าง ๆ เบา ๆ ใส่เข้าไป


































































































   132   133   134   135   136