Page 136 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 136

68
กว่าภาพ ภาพที่เห็น รู้สึกเป็นอย่างไร ให้จิตที่กว้างกว่าภาพ กลายเป็นว่า เป็นการแยกรูปแยกนาม แยกรูป ภายนอกกับจิตของเรา
จริง ๆ เราก็แยกกันอยู่แล้ว แต่พอเห็นปุ๊ป ทาไมเราแยกไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเขากับตัวเรา ก็เป็นคนละ ส่วนกัน เห็นเมื่อไหร่ มาเป็นอยู่ที่ใจเราเสมอเลยไม่ยอมแยกกัน ไม่ให้เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น กลับดึงเข้ามา ในใจ ดึงเข้ามาในใจ แล้วก็มาแบกเอาไว้...เป็นทุกข์ ลองดู ถ้าเราแยกแบบนี้ สมมติว่ามองตรงไหน ให้ภาพ นั้นหยุดตรงนั้น ส่งจิตเราไปดูกว้าง ๆ แล้วให้ภาพนั้นอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องวิ่งเข้ามาหาตัวเรา รู้สึกเป็นอย่างไร ใจรู้สึกโล่ง สบาย นี่เป็นวิธีการกาหนดอารมณ์ เกิดที่ไหนให้ดับที่นั่น เกิดที่ไหนให้อยู่ตรงนั้น
แต่เราส่วนใหญ่ เราเกิดที่ไหนมาดับที่นี่ เกิดที่ไหนมาอยู่ที่ใจเราหมด เกิดอยู่ที่ต่างประเทศก็มาอยู่ ในใจเรา วุ่นวายไปหมดแล้ว เกิดตรงไหน เกิดอีกมุมหนึ่งของโลก เราก็มาอยู่ที่ใจ เราอ่านข่าวฟังข่าว ก็เข้า มาอยใู่ นใจของเรา สงั เกตไหม กลายเปน็ วา่ จติ ตรงนเี้ ปน็ ศนู ยร์ วมของอะไร ของอารมณท์ เี่ ขา้ มา อารมณน์ นั้ เข้ามาทางไหน ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แล้วเขาทาให้ใจเราไม่สบาย ใจนี่มหัศจรรย์ มาก ๆ นะ รับได้แม้แต่สิ่งที่มองไม่เห็น รับได้แม้แต่สิ่งที่มองไม่เห็น คือเรื่องที่เราคิด ไม่รู้หรอก มองไม่เห็น ก็กลัวไว้ก่อน แล้วก็ไม่สบายใจไว้ก่อน
ถ้าจิตเรารู้สึกกว้างแบบนี้ ประเด็นคือว่า ถ้าเราใช้จิตที่ว่าง ตรงนี้คือการแยกรูปนาม รูปภายนอก เห็นคน เห็นใคร เห็นสิ่งของ ให้จิตเรากว้างกว่าภาพนั้น...กว่ารูปนั้นอยู่เรื่อย ๆ ใช้จิตที่ว่างนี่นะรับรู้ แยก เป็นคนละส่วน ๆ ลองดูว่าจิตใจเราเป็นอย่างไร สังเกตดู แค่นั่งตรงนี้ รู้สึกจิตใจ...รู้สึก มันว่างเบา แต่จะมี ผลกระทบตามมา ผลกระทบตามมาก็คือว่า ดูละครแล้วไม่สนุก จะดูละครแล้วไม่ค่อยสนุก เพราะมันไม่ ค่อยอิน (Infatuated) มันแยกส่วนกัน ถ้าถามว่าเราต้องการอิน หรือต้องการอยู่ข้างนอก ถ้าไม่อยากทุกข์ เราก็ต้องแยกส่วน
นี่คือการผัสสะทางตา แล้วเข้ามาถึงใจ ใจเราก็ไหลตามอารมณ์ ไหลตามอารมณ์ แล้วเกิดความ ทุกข์ขึ้นมา เกิดความทุกข์ตามเขา เขาก็จบไปแล้วแหละ แต่เราก็ทุกข์ ๆ ๆ เราก็ โอ้โห! เศร้านะ แต่กลับ มา...ย้อนกลับมาดูสิ ถ้าชีวิตเรา เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวันจะเป็นอย่างไร เกิดภพชาติไหน ก็ยังไหลตามอารมณ์ คล้อยตามอารมณ์ แล้วความทุกข์อย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ นี่นะ ดีไหม อยากไหม...ไม่อยากนะ เอ่อ! ค่อยยังชั่ว ดีไหม...ไม่ดี อยากไหม...เงียบ ขออีกสักชาติหนึ่ง ไม่อยากแต่ก็อยากนะ ไม่อยากเจอะเรื่องนี้แต่อยากเกิด หนียากเลยนะ
เพราะว่าในชีวิตของเรานี่นะ ผ่านเรื่องหนึ่งไปเจออีกเรื่องหนึ่ง จากเรื่องหนึ่งในชีวิตของเราที่ผ่านมา ในชั่วระยะชีวิตเรา มีกี่เรื่องที่วนเวียนผ่านมาเข้ามาในชีวิตของเรา ผัสสะที่เกิดขึ้นมา กระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งที่ดีและไม่ดี และทั้งเรื่องที่เราชอบ มีกี่เรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา มีกี่ครั้งที่ผ่านเข้ามา ซ้าแล้วซ้าอีก แล้วเราก็ทุกข์ทุกครั้ง นี่คือวัฏจักรของชีวิต วัฏจักรของอารมณ์ของเรา
เพราะฉะนั้น การที่จะหลุดจากวงจรแบบนี้ จะทาอย่างไร การที่จะหลุดจากวงจรแบบนี้ได้ ก็ต้อง อาศัยปัญญาของเรา ปัญญาของเรานี่นะ อาศัยใคร อาศัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์


































































































   134   135   136   137   138