Page 192 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 192

124
สติเราก็แก่กล้ามากขึ้น จิตจะตั้งมั่นขึ้น การที่รู้อารมณ์ปัจจุบัน/รู้อิริยาบถย่อยนี่ เพื่อความต่อเนื่องของสติ จากอารมณ์หลัก
อย่างเช่น เรานั่งกรรมฐาน อารมณ์หลักคือตอนอิริยาบถนั่ง พอนั่งกาหนดลมหายใจ กาหนดความ คดิ กา หนดเวทนาหมดไป ตอนทเี่ ราจะถอนกรรมฐานนี่ เราลมื ตา... จรงิ ๆ แลว้ ปกตไิ มค่ อ่ ยไดใ้ ชค้ า วา่ ถอน กรรมฐานหรอก พอลืมตาเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งเป็นลุกนี่ พอลืมตาขึ้นมาปุ๊บ มีสติรู้ถึงอาการค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา อาการลืมตาเป็นอย่างไร พอลืมตาเสร็จ พอเราจะขยับมือ มีสติรู้ชัดถึงอาการค่อย ๆ ขยับ ค่อย ๆ เคลื่อนไหว ค่อย ๆ ขยับตัว... มีสติรู้อยู่กับอารมณ์
ตรงนี้เขาเรียกว่า “การกาหนดอิริยาบถย่อย” จะลุก จะขยับ จะพลิกซ้ายพลิกขวา เราก็มีสติรู้ สติ เราก็จะต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ จนเราลุกยืน ยืนเสร็จจะก้าวเดิน จะเดินไปทาธุระ เดินเปลี่ยนอิริยาบถ ก็มีสติรู้ ถึงอาการเคลื่อนไหว ยกเท้า ย่างไป วางลง ถึงแม้ไม่ใช้คาบริกรรมว่าย่างหนอก็ตาม แต่มีสติรู้ชัดถึงอาการ เคลื่อนไหว ถึงการขยับ ความต่อเนื่องของสติเราก็จะมากขึ้น ๆ ถ้าทาอย่างนี้ได้นี่สติเราต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ลูกโซ่... ไป
ในการกาหนดอิริยาบถย่อย ที่บอกว่าจะกาหนดได้ดีก็คือว่าสภาพจิตของเราตอนที่เรานั่งก่อนที่จะ ลกุ เดนิ สมมติ เรานงั่ อยู่ กอ่ นทเี่ ราจะลกุ เดนิ จติ รสู้ กึ วา่ ง โลง่ เบา ไปหมด พอจะลกุ เดนิ ปบุ๊ นี่ เราตอ้ งสงั เกต จิตเราด้วย ขณะที่เรากาลังขยับ จิตเรายังรู้สึกโล่ง รู้สึกเบาอยู่ไหม ? ถ้าสังเกตว่าจิตเราโล่งเบา วิธีทาให้จิต ที่โล่งเบาตั้งอยู่นานก็คือว่า ไม่ใช่ดูแค่ข้างในแล้วนะ เราก็สังเกตรอบ ๆ ตัวด้วย - รอบ ๆ ตัวรู้สึกเบาด้วย ไหม ? พอรอบ ๆ ตัวโล่ง เบา ความรู้สึกที่เบาหรือตัวสภาพจิตตรงนี้ เขาจะกลายเป็นกาลังของสมาธิ คือ จิตเรายังสงบอยู่ จิตเรายังตั้งมั่นอยู่ เมื่อลืมตาขึ้นมา สติเพิ่มขึ้น ความตื่นตัวก็จะเกิดขึ้น สติจะไวขึ้น
เพราะฉะนั้น เวลาเราจะกระพริบตา จะขยับ จะพูด จะหยิบ จะจับ จิตเขาจะรู้สึกทันที สติเราจะไว จะรู้สึกทันทีขณะนี้กาลังขยับ กาลังจะหยิบ กาลังจะจับ กาลังพลิกซ้าย กาลังพลิกขวา สติเราก็จะรู้ทัน รู้ทัน รู้ทันตรงนี้การกาหนดในอิริยาบถย่อย จริง ๆ แล้วเป็นสิ่งสาคัญสาหรับโยคีทุกคน เพราะเป็นการเพิ่มกาลัง ของสติ การเพิ่มกาลังของสติก็คือการปรับอินทรีย์นั่นเอง - อินทรีย์ความเป็นใหญ่ - ทาให้สติที่เป็นใหญ่แก่ กล้าขึ้น สติเรามีกาลังมากขึ้นนั่นเอง
อกี อยา่ งหนงึ่ กค็ อื วา่ ถา้ เราดสู ภาพจติ แลว้ เหน็ สภาพจติ เราวา่ งกวา้ ง สงั เกตวา่ ขณะทเี่ ราเคลอื่ นไหว ขณะที่ขยับแต่ละครั้ง มีความรู้สึกว่ามีตัวตนไหม ? มีความรู้สึกว่าเป็นเราไหม ? หรือมีแต่สติที่ทาหน้าที่รู้ ว่าร่างกายมันกาลังจะขยับ จะเคลื่อนไหว เคลื่อนไป วางลง ยกขึ้น ? ลองดูสิ รู้สึกไหมเวลาจะกระพริบตา อาการกระพริบตาแต่ละครั้งเขาเป็นอย่างไร ? เออ! ไม่แน่ใจฉันกระพริบตาหรือเปล่านะ ? ตอนที่ไม่แน่ใจ ว่าฉันกระพริบตาหรือเปล่า นั่งทาตาปริบ ๆ นี่ ถามว่า อยู่กับปัจจุบันไหม ? อันนี้คือการสังเกตอาการของ อิริยาบถย่อย
อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า การกาหนดรู้อิริยาบถย่อยนี่เรารู้อย่างไร ? ที่จริงก็ไม่ต่างกับที่เรารู้อาการที่ ปรากฎในอิริยาบถหลักที่เรากาหนดลมหายใจหรือเวทนานั่นแหละ เรากาหนดว่าเวลากระพริบตาครั้งหนึ่ง


































































































   190   191   192   193   194