Page 205 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 205

137
เวลาเราใชภ้ าษา เรากพ็ จิ ารณาตามอาการ เขาเรยี ก “สภาวธรรมทรี่ องรบั ” วา่ อาการทเี่ กดิ ขนึ้ จรงิ เปน็ อย่างไร เหมือนอาการเกิดดับ ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แค่ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การ เกิดดับตรงนี้ เราบอก ทุกอย่างเกิดดับ เกิดดับ... ทุกอย่างเกิดดับถูกแล้ว แล้วแต่การที่เรา “เข้าใจ” ว่าเกิด ดับ กับการที่ “เข้าไปเห็น” ถึงอาการเกิดดับ ส่งผลต่อสภาพจิตเราอย่างไร ส่งผลต่อความมั่นใจเราอย่างไร และยิ่งเห็นลักษณะอาการเกิดดับที่แตกต่างไปยิ่งชัดยิ่งละเอียดขึ้น สติเราดีขึ้นอย่างไร อันนี้คือบางครั้ง ใชค้ า เดยี วกนั ตา่ งกนั ทสี่ ภาวะทรี่ องรบั เพราะฉะนนั้ ตอ้ งสงั เกตสงิ่ ทกี่ า ลงั ปรากฏจรงิ ๆ สงั เกตใหด้ ี นแี่ หละ รู้จากสภาวธรรมที่เกิดขึ้น
สงั เกตตรงนี้ ยงิ่ จติ มกี า ลงั ขนึ้ ยงิ่ ผอ่ งใสขนึ้ สะอาดขนึ้ เรากบ็ อกตวั เองไดว้ า่ จติ เราสะอาดขนึ้ ผอ่ งใส ขึ้น โปร่งขึ้น อิสระขึ้น สบายขึ้น... แต่เราก็ยังกังวลว่า เอ๊! ผิดหรือเปล่า “ผิดจากอะไร ?” อันนี้แหละที่เรา ต้องถามตัวเอง ผิดจากอะไร... ผิดจากคาสอนพระพุทธเจ้า หรือผิดจากหนังสือ ? อันนี้ต้องสังเกตดี ๆ นะ ผิดจากเป้าหมาย/เจตนา หรือว่าผิดจากในหนังสือ หรือที่เราฟังมา ? อันนี้ต้องสังเกต ตรงนี้เราจะเป็นคน ตอบตัวเองได้ดีที่สุด อาจารย์ตอบได้ไม่หมดหรอก ลองสังเกตดูนะ บางครั้งเราตั้งคาถามไม่ตรงกับสิ่งที่เรา อยากเห็นอยากรู้ แต่เราก็พยายามหาให้ตรง ก็เลย เอ๊ะ! ทาไม ทาไม... ?
มอี ยา่ งหนงึ่ ทผี่ ปู้ ฏบิ ตั ธิ รรมเหน็ เหมอื นกนั หมด ตรงนเี้ ปน็ สจั ธรรมจรงิ ๆ กค็ อื อาการพระไตรลกั ษณ์ แตค่ ณุ พเิ ศษตา่ ง ๆ มคี วามเฉพาะตวั ของตวั เอง เพราะฉะนนั้ เอาสภาวะเปน็ ทตี่ งั้ เอาอาการพระไตรลกั ษณ์ เป็นที่ตั้ง เอาอาการเกิดดับของรูปนามเป็นที่ตั้ง ทุกคนสามารถพิสูจน์ได้! แต่ความพิเศษอย่างอื่นนี่เป็น เรอื่ งเฉพาะตวั แตล่ ะคนกร็ วู้ า่ ตวั เองมพี เิ ศษตรงไหน ไมง่ นั้ พระพทุ ธเจา้ คงไมก่ ลา่ วถงึ เอตทคั คะ ความพเิ ศษ เฉพาะตน ที่เขาแยกว่าเป็นความพิเศษเฉพาะตนเฉพาะตน จะให้คนนั้นเหมือนคนนี้ก็คงจะไม่สามารถเป็น ไปได้ทั้งหมด แต่ธรรมะ อาการเกิดดับ อาการพระไตรลักษณ์ และนิพพาน ถ้าเข้าถึงแล้วเหมือนกันหมด สภาพจิตเป็นแบบนั้น อาการเป็นแบบนั้น ความทุกข์ก็ดับไปแบบนั้น
เพราะฉะนั้น เราปฏิบัติธรรม ลองถามตัวเอง “อาการที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอะไร ?” ตรงนี้สารวจได้ “อาการเกิดดับนี้เปลี่ยนแปลงไปยังไง ?” “เห็นอาการเกิดดับแล้วส่งผลต่อสภาพจิตใจเราเป็นยังไง ?” อัน นี้จะเหมือนกัน เป็นขั้นตอนที่ต้องเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะฉะนั้น การที่เรามีสติกาหนดรู้อย่าง เป็นลูกโซ่ต่อเนื่องตั้งแต่อิริยาบถหลัก—ยืน เดิน นั่ง นอน อิริยาบถย่อย—กิน ดื่ม ทา พูด คิด... ต่าง ๆ ตรงนี้ ให้มีสติคอยกากับคอยกาหนดรู้อยู่ต่อเนื่องไป ความต่อเนื่อง(ของการกาหนด)อาการที่เกิดขึ้นตรงนี้ จะส่งผลทาให้เรามีความชัดเจนในสภาวธรรมมากขึ้น เห็นชัดถึงสภาพจิตตัวเองมากขึ้นว่าเป็นไปอย่างไร
อิริยาบถย่อยอีกอย่างหนึ่ง เวลากลืนอาหาร เคยสังเกตไหม กลืนลงไปที่ไหน ? ลงไปในลาคอ ไป ถึงกระเพาะ ไปถึงลาไส้เล็ก... โอ้โห! ลาไส้เราหลายขดมากเลยกว่าจะไหลไปถึงท้อง แต่ที่เราสัมผัสได้คือ ลักษณะความเย็น ความร้อน ความหนัก ความเคร่งตึง... เป็นอาการ(ของอาหาร)ที่ไหลลงไป พอเราพูดไป ถึงกระเพาะ ถามว่า เห็นรูปร่างของกระเพาะไหมขณะนั้น ? บางคนเห็นนะ อาจารย์พูดจริงนะ พอเรารู้สึก ว่าอันนี้เป็นกระเพาะ นั่นคือบางครั้งจะเป็นแค่สัญญานิมิต จาได้ว่ากระเพาะมีลักษณะนี้อยู่ตาแหน่งนี้ แต่


































































































   203   204   205   206   207