Page 228 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 228
160
สังเกต ตอนนี้มีลมกระทบไหม ทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องไม่มีลมเลยนี่นะ ก็ไม่ต้องแบบนั้น เรากาหนดอารมณ์ ที่ปรากฏนั่นคือเป็นอารมณ์ปัจจบุ ัน สังเกตแบบนี้ กลายเป็นว่าทาให้สติเราต่อเนื่องไป กรรมฐานมีความ ต่อเนื่องไม่ขาดสาย
อีกอย่างหนึ่งคือการเดินจงกรม ที่เราถามว่าการเดินจงกรมนั้น จะกาหนดอย่างไร การเดินจงกรม กับอิริยาบถย่อย การเดินในอิริยาบถย่อยคล้าย ๆ กัน เท่าที่ดูแล้ว โยคีชานาญในการเดินจงกรม...ใช่ไหม เราเดินเป็นกันทั้งนั้นแหละ เดินตั้งแต่ ๒ ขวบแล้ว เริ่มหัดเดินเป็น แต่พอเดินจงกรมแล้วเดินไม่เป็น ต้อง สอนต้องหัด จริง ๆ ก็คือว่า การเดินจงกรมอย่างที่เราเคยกาหนด เป็นกาหนด ๖ จังหวะ ยกหนอ ย่างหนอ เหยียบหนอ กาหนดจังหวะที่ ๑ จังหวะที่ ๒ ใหม่ ๆ เราก็กาหนดจังหวะที่ ๑ ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ จริง ๆ แล้วสังเกตไหมว่า ทาไมต้องกาหนดเป็นเป็นจังหวะ เป็น ๖ จังหวะ เราต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่า การ กา หนดอาการไมว่ า่ จะเปน็ พองยบุ ไมว่ า่ จะเปน็ อาการเดนิ ...เพอื่ อะไร เพอื่ กา หนดรอู้ าการเกดิ ดบั ของอารมณ์ นั้น คือเพื่อรู้อาการพระไตรลักษณ์เหมือนกัน
เพยี งแตว่ า่ การกา หนด ถา้ เรากา หนดสงั เกตอาการ มสี ตติ อ้ งอยทู่ ไี่ หน มสี ตติ อ้ งอยทู่ อี่ าการของเทา้ อยู่ที่อาการของเท้า สติแนบกับอาการของเท้า เกาะติดไปพร้อมกับสังเกต ทีนี้มีอย่างหนึ่งก็คือว่า โยคีบาง คนรู้สึกว่าแนบกับเท้านี่นะ อาการที่เท้าไม่ชัดกลับไปชัดอยู่ที่อาการ พอก้าวไปเหมือนมีอาการวิ่งขึ้นมาที่ขา วืดขึ้นมาแล้วก็หายไป ก็ว่างปุ๊บก็ปิ๊บนิดหนึ่ง บางทีพอยกปุ๊บก็มีอาการวิ่งขึ้นมา ตอนนี้ทาอย่างไรดี อาการ เท้าไม่เห็นไม่ชัดอยู่ที่เท้า แต่ชัดตรงวิ่งขึ้นมาตามเส้นตามน่องตามขา จริง ๆ แล้ว อีกจุดหนึ่งที่เราต้องจาไว้ ก็คือว่า คาว่าอารมณ์ปัจจุบัน การสังเกตอาการ ชัดตรงไหนสังเกตอาการนั้นเกิดดับได้เลย อาการเกิดดับ ของอารมณ์เขาวิ่งขึ้นมาก็ตาม วิ่งขึ้นมาแล้วหาย วิ่งขึ้นมาแล้วหาย สังเกตอาการแบบนี้ก็ได้ รู้อาการเกิดดับ ในขณะที่เดิน อันนี้อย่างหนึ่ง
ทีนี้อันนี้พูดถึงอาการ แต่ถ้าจะให้ดีเหมือนอิริยาบถย่อยเลย คือทาจิตของเราให้ว่างกว้าง แล้วเดิน เข้าไปในที่ว่าง ๆ คนละขณะนะ สังเกตดูนะว่า หนึ่ง...ทาจิตให้ว่าง ให้กว้างกว่าตัว เอาจิตที่ว่าง ๆ เอาไว้ ขา้ งหนา้ แลว้ เดนิ เขา้ ไปในความวา่ งทอี่ ยขู่ า้ งหนา้ ขณะทเี่ ดนิ เขา้ ไปในความวา่ งทอี่ ยขู่ า้ งหนา้ ใหส้ งั เกตอาการ เคลื่อนไหวของเท้าที่เคลื่อนเข้าไปในความว่าง เคลื่อนเข้าไปแล้วอาการเคลื่อนเป็นอย่างไร สอง...ขณะที่ยก ทีนี้ก็เพิ่มสังเกตต้นจิต รู้สึกก่อนที่จะยก เคลื่อนไป แนบไปกับอาการ สังเกตให้ชัดเคลื่อนไป สาม...สังเกต ที่อาการเป็นสาคัญ สังเกตที่อาการเป็นสาคัญ เดินไปสังเกตไป ตรงนี้เกาะติดอาการแนบไป ๆ
ทีนี้บางครั้ง...อันนี้ข้ามขั้นตอน เดี๋ยวจะข้ามอีกแล้วนะ แป๊บเดียวไวมากเลยจะว่างแล้ว ถ้าว่างแล้ว เพราะอะไร เพราะอาการบางขณะ เรากา หนดอาการเคลอื่ นไหวทเี่ ทา้ ขณะทเี่ ทา้ สมั ผสั กระทบนนี่ ะ เขาไมไ่ ด้ ชัดที่เท้าแล้ว เขาจะมาชัดที่ความรู้สึก สังเกตไหมกระทบปุ๊บมันวูบข้างใน กระทบแล้วรู้สึกวูบตรงนี้ บริเวณ หทยวัตถุเรา เขาเรียกเป็นอาการกระทบที่ชัดในความรู้สึก ชัดที่ความรู้สึก อาการเกิดดับมาชัดอยู่ข้างใน กระทบปุ๊บวูบหาย กระทบปุ๊บวูบหาย กระทบปุ๊บวูบหาย ไม่ได้เห็นที่เท้านะ แต่มาชัดที่ความรู้สึก ตรงนี้เขา เรยี กวา่ อาการเกดิ ดบั ของการเดนิ ปรากฏชดั ในความรสู้ กึ เรา เพราะอะไร พอจติ เราวา่ ง กจ็ ะปรากฏชดั ภายใน เอง แต่ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยวกับอาการเดิน ถ้าไม่ใส่ใจอาการเดิน อาการแบบวูบนี้ก็จะจางหายไปเช่นเดียวกัน