Page 229 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 229

161
บางทีโยคีเกิดความสงสัยถามว่า ถ้าเรากาหนดแบบนี้ สติติดตามอาการแล้วมันวูบ วูบอยู่ที่บริเวณ ขา้ งหนา้ บรเิ วณหทยวตั ถุ เราจะทงิ้ ทเี่ ทา้ เลยไหม หรอื มากา หนดตรงนที้ วี่ บู อยา่ งเดยี ว ทจี่ รงิ แลว้ ถา้ เราสงั เกต เราจะเห็นว่า ถ้าไม่อาศัยการเคลื่อนไหวที่เท้า ไม่สังเกตตรงนั้น ตรงนี้ก็ไม่ชัด พอกลับมารู้วูบ ๆ ๆ สักพัก หนึ่ง ไม่ได้สนใจเท้าปุ๊บอันนี้หายไป ก็กลายเป็นเบา ๆ ไป เฉย ๆ อันนี้จุดหนึ่งสังเกตให้ดีนะ ทาไมอาการ เกดิดบัของเท้าการเดินจงึมาชดัอยขู่า้งในมาชัดอย่บูริเวณหทยวตัถุใหเ้ฉลยไหม...เออ่!ดีนะอาจารยป์กติ เ ม อื ่ ก อ่ น ส ม ยั ก อ่ น จ ะ ไ ม เ่ ฉ ล ย ห ร อ ก โ ย ค ตี อ้ ง ไ ป ห า ม า ไ ป ส งั เ ก ต ม า ท า ไ ม ถ งึ เ ป น็ แ บ บ น ี ้ จ ะ ไ ด เ้ ป น็ ป ญั ญ า ข อ ง โยคี เอาแบบนั้นดีไหม เฉลยไปครึ่งหนึ่งแล้ว ดูทาท่าไม่ยอมนะ
สังเกตแบบนี้ ตอนที่เรากาหนดต้องแบบนี้นะ ตอนที่เรากาหนดขวาย่างหนอซ้ายย่างหนอ อาการ ตรงนี้จะชัด อาการเคลื่อนไหวของเท้าจะชัด เขาจะมีน้าหนักแล้วก็กระทบปุ๊บ มันจะชัดเจนปุ๊บอยู่ตรงนั้น วูบชัด วูบชัด พออาการของเท้าหายปุ๊บ พอสติมีกาลังมากขึ้นจิตเขาผ่องใส เขากว้างขึ้นว่างมากขึ้นอาการ เท้าหายปุ๊บ พอสติเราเข้าถึงอาการดับปุ๊บ มันจะวูบข้างใน กระทบปุ๊บมันจะวูบข้างใน กระทบปุ๊บจะปรากฏ ชัดข้างใน สภาวะละเอียดขึ้นเขาจะปรากฏชัดในความรู้สึก นั่นคือเพราะว่า สติเรากาหนดได้ปัจจุบัน อยู่ที่ เดยี วกบั อาการ อาการเลยรสู้ กึ ชดั ตรงนี้ สงั เกตดไู หมวา่ ไมว่ า่ จะเปน็ กา หนดอาการพองยบุ กา หนดลมหายใจ เวลาเราตามอาการกจ็ ะเปน็ ไปอยา่ งนี้ แตพ่ อถงึ ปบุ๊ มนั จะฟบู๊ ชดั ขนึ้ มา แลว้ บางทกี ด็ บั ฟบ๊ึ กระทบเขา้ มาทรี่ ปู แล้วก็สว่างวาบขึ้นมาเลย เข้าไปทันปัจจุบันเมื่อไหร่ สติกาหนดถึงอารมณ์ปัจจุบันเมื่อไหร่ เขาจะวืบเข้ามา ที่ใจเรา วืบขึ้นมาที่ใจเรา อันนี้ต้องไปพิจารณาดูนะ อย่าเพิ่งเชื่อ อันนี้เฉลยแล้วก็อย่าเพิ่งเชื่อ จะได้สังเกต เห็นด้วยตัวเองชัด ๆ พิสูจน์ว่าเป็นอย่างนั้นจริงไหม เพราะเวลาเราตามอาการ บางครั้งตามแล้วมันก็ไป ๆ เรื่อย ๆ ๆ
ทีนี้ลองนิดหนึ่ง วิธีกาหนดอาการเกิดดับ เวลากาหนดเดินจงกรม ลองอย่างไรดี ตอนนี้เรานั่งอยู่ จะเดินก็จะยังไงอยู่นะ อ่ะ!ยกมือนิดหนึ่ง ยกมือดูนะ สมมติว่ามือนี้คือการเคลื่อนไหวของเท้า เวลาเรา เคลื่อนไหวไปนี่นะ ช้า ๆ แบบนี้ แล้วสังเกตดู เอาจิตที่ว่าง ๆ ไปคลุมห่อหุ้มมือ จิตที่ว่างคือตัวสติเข้าไป สังเกตแล้วเคลื่อนไป ขณะที่เคลื่อนลองดูว่าอาการที่เคลื่อนไป เขาเป็นอย่างไร มีอาการอย่างไร เป็นเส้น เป็นคลื่น มีอาการยิบ ๆ มีอาการนิ่ง ๆ หรืออาการขาดเป็นช่วง ๆ รู้สึกแบบไหน ว่าง ๆ ไม่รู้สึกเลยเหรอ! (พูดกับโยคี...มันค่อย ๆ ไป เอ่อ!ค่อย ๆ ไปนะ ค่อย ๆ ไปก็ถูกแล้วแหละ...ใช่ไหม) ทีนี้สังเกตเวลาค่อย ๆ ไป พอเคลื่อนไปพอสุดปุ๊บ เขามีอาการหยุดนิดหนึ่ง ขาดไปนิดหนึ่ง แล้วกลับมาช้า ๆ นิ่ง ๆ (พูดกับโยคี... โยม! สติไม่ได้อยู่ที่มือเลยนะ ต้องอยู่ที่มือ แล้วก็สังเกตอาการ รู้สึกไหมเขาเปลี่ยนไป)
ตรงนี้ ที่สังเกตอาการรูปร่างของมือไม่เกี่ยวแล้ว มันจะกลายเป็นแค่สังเกตอาการเป็นหลัก สังเกต อาการบางครั้งเคลื่อนทีเดียวมีอาการยิบ ๆ ๆ นี่คืออาการเกิดดับ เวลาเรายกเท้าก็เหมือนกัน สังเกตไหม บางครั้ง พอยกขึ้นมามันวืดเดียว แต่พอก้าวปุ๊บมันตึ๊ด ๆ ๆ ๆ หรือสะดุด ๆ ๆ ไป นี่คืออาการเกิดดับ เพราะฉะนั้นถามว่าขณะสะดุด เราไม่ต้องนับจังหวะเขาก็ได้ ให้รู้สึกปื๊บ ๆ ๆ ๆ วืบหาย เคลื่อนใหม่ปื๊บ ๆ ๆ วืบหาย อาการกระตุก ๆ ๆ อาการสะดุดนี่นะ นี่คืออาการเกิดดับของรูปที่แต่ละขณะ


































































































   227   228   229   230   231