Page 267 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 267
199
เราก็ต้องเข้าใจว่า เวทนาที่เกิดขึ้นมา เขาก็สักแต่เวทนา แยกระหว่างจิตที่ทาหน้าที่รู้กับเวทนาที่เกิดขึ้น อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าเราดูให้เวทนาเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ มีแต่สติสมาธิปัญญาเข้าไปพิจารณาถึงความเป็น ไปของเวทนานั้น ๆ ว่าเขาเกิดดับในลักษณะอย่างไร เรากาหนดในลักษณะเดียวกันทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะ เป็นกาหนดลมหายใจอย่างไร กาหนดอาการพองยุบอย่างไร อาการอื่นก็กาหนดแบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เวทนา เป็นความคิด แม้แต่ตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้เอง ก็ต้องนิ่ง ใส่ใจ มีความเพียร คอยพิจารณา คอยสังเกต อยู่เสมอว่า สภาวธรรมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร
ลองสังเกตให้ดี ขณะนี้มีอาการอะไรปรากฏเกิดขึ้นมา ถ้าไม่มีเวทนา มีอาการเป็นสี มีความสว่าง ขึ้นมาข้างหน้า หรือเป็นจุดใส ๆ จุดดา ๆ ก็ตาม ที่ปรากฏขึ้นมาในความว่าง ไม่ว่าจะเป็นความว่างบริเวณ ที่ตัว หรือข้างหน้าตัวก็ตาม ที่เป็นจุดใส ๆ จุดดา ๆ ขึ้นมา ถ้าเป็นอย่างนั้นให้มีสติเข้าไปกาหนดรู้ นั่นคือ สภาวธรรมที่เริ่มปรากฏให้เห็น เมื่อมีสภาวธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ไม่ว่าเราจะรู้ชื่อหรือไม่รู้ชื่อ รู้ความหมายหรือไม่รู้ความหมายก็ตาม ขอให้มีสติเข้าไปกาหนดรู้ถึงอาการพระไตรลักษณ์ของอารมณ์ นั้น ๆ ก่อน รู้ถึงอาการเกิดดับของอารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเรามีเจตนาที่จะรู้อาการเกิดดับในลักษณะอย่างนี้ อย่างต่อเนื่อง สติจะมีกาลังขึ้น สภาวะก็จะก้าวหน้าขึ้น สติสมาธิปัญญาพัฒนาขึ้น สภาวธรรมก็จะก้าวหน้า ขึ้นไป
เป็นจุดเล็ก ๆ จุดใส ๆ จุดดา ๆ ก็เข้าไปรู้ เกิดขึ้นมาแล้วดับอย่างไร พอจุดนี้หายไป มีอาการ อะไรปรากฏขึ้นมาอีก ก็จะมีสภาวะต่อเนื่องไป ถ้าเราใส่ใจในลักษณะอย่างนี้ สติเราจะไม่ว่างจากอารมณ์ มีอารมณ์ให้จิตเราได้ตามรู้อยู่เสมอ อย่างที่บอกแล้วว่า ยิ่งตามรู้ต่อเนื่องได้นานเท่าไหร่ มากเท่าไหร่ สมาธิ เราก็จะยิ่งดีขึ้น ยิ่งเราใส่ใจกาหนดเห็นอาการเกิดดับ การเปลี่ยนแปลงได้มากเท่าไหร่ละเอียดเท่าไหร่ นั่น คือสภาวะ นั่นคือปัญญาญาณ
ปัญญาก็เกิดขึ้นมา ปัญญาที่รู้ว่า รู้สภาวะจริง ๆ เขายังมีละเอียดมากกว่านี้นะ เออ!ไม่เคยเห็น แบบนี้เลยแล้วทาไมละเอียด เปลี่ยนไปต่างจากเดิมอีกแล้ว พอยิ่งเข้าไปรู้ยิ่งเห็นชัดก็พิสดารออกไป เพราะฉะนนั้ นคี่ อื วธิ กี ารพจิ ารณาสภาวะ การกา หนดรสู้ ภาวธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏ ใหก้ า หนดในลกั ษณะอยา่ งนี้ โดยเฉพาะอยา่งยงิ่เรากาหนดแบบไมม่ตีวัตนไมม่เีรามแีตส่ตสิมาธปิญั ญาเขา้ไปพจิารณาสภาวะทเี่กดิขนึ้ สภาวธรรมที่เกิดขึ้น คืออาการของกาย อาการของรูปนาม อาการของกาย อาการของจิต อาการของเวทนา และก็อาการของสภาวธรรมที่กาลังปรากฏอยู่เฉพาะหน้าเรา
ถ้าอย่างนั้นทาใจสบาย ๆ เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าจิตเราเริ่มกลับมา เริ่มแน่นแล้วนะ จิตเราแคบลง รู้สึก ว่าเริ่มแน่น เริ่มอึดอัด ถอยใหม่ ขยายจิตให้กว้างออกไปใหม่ ทาจิตของเราให้กว้าง ๆ ใหม่ โล่ง ๆ แล้ว ค่อยกลับมาพิจารณาที่ตัวใหม่ มารู้อารมณ์หลักต่อ มากาหนดรู้ที่อารมณ์หลัก ที่กาลังปรากฏอยู่ขณะนี้ ต่อไป อย่างที่บอกแล้วว่าสภาวธรรมเขาจะเกิดซ้าวนเวียน วนเวียนอยู่ในขันธ์ทั้ง ๕ นี่แหละ ตัวใดตัวหนึ่ง จะปรากฏเกิดขึ้นมานะ ตัวใดตัวหนึ่งที่จะปรากฏขึ้นมาสลับกันไป อาการของรูป อาการของกาย ปรากฏ ขึ้นมาหมดไป อาการของเวทนา ก็ปรากฏขึ้นมา มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ต่อเนื่องแบบนี้ พอเวทนาเกิดขึ้นมา