Page 364 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 364

296
ที่เข้าไปรู้ เรารู้สภาพจิต รู้สภาพจิตที่เบา พอเข้าไปรู้จิตที่เบา ความเบานั้นกว้างขึ้น เข้าไปรู้แต่ละครั้ง ความ รู้สึกที่เบา จิตที่เบา ๆ กว้างขึ้น ๆ ยิ่งกว้าง ยิ่งโล่ง ยิ่งโปร่ง ยิ่งเบา ถ้าเห็นแบบนั้น เขาจะไม่ง่วง แต่ถ้านิ่ง ๆ แล้วดูว่าง ๆ เบา ๆ ว่าง ๆ เบา ๆ ตัวถีนมิทธะก็เกิดขึ้น ตรงนี้แหละ เขาเรียกตัวนิวรณ์
นวิ รณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ทา ใหไ้ มเ่ หน็ ทา ใหป้ ดิ กนั้ อะไร ปดิ กนั้ สภาวธรรม ปดิ กนั้ ธรรม ทา ใหเ้ ราไมเ่ หน็ ความ เปน็ อนจิ จงั ทกุ ขข์ งั อนตั ตา ไมเ่ หน็ ความเปลยี่ นแปลง ไมเ่ หน็ การเกดิ ขนึ้ ตงั้ อยดู่ บั ไป ลองสงั เกตดไู ดเ้ ลยวา่ เมื่อไหร่ก็ตาม ที่มีนิวรณ์ตรงนี้เกิดขึ้นมา ส่วนใหญ่จะไม่เห็นอาการเกิดดับ ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ความ ง่วงเข้ามาครอบงา ก็ง่วง ๆ ๆ ไม่เห็นการดับ แต่รู้ว่าหลับ พอรู้ว่าหลับปื๊บไป ตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่น คือรู้ว่า หลับ แต่ไม่เห็นการดับของความง่วง บางครั้งก็รู้ว่าหลับ ก็วุบไป แต่ถ้าเมื่อไหร่เห็นอาการดับ ความง่วงก็ หายเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้น การกาหนดรู้สภาวธรรม ที่บอกว่าขณะที่รู้สึกแบบนั้น ให้รู้ว่ากาหนดอะไรอยู่ ตามรู้ อะไรก่อนที่จะหลับ ก่อนที่จะหลับ ถ้าเรารู้ว่ากาหนดอาการอะไร แล้วรู้ให้ชัดว่าอาการก่อนที่จะหลับ อาการ เกิดดับเขาเป็นอย่างไร เมื่อมีเจตนาที่จะกาหนดรู้อาการเกิดดับ อาการง่วงจะลดลง เมื่อเห็นอาการเกิดดับ ชัด ความง่วงก็จะน้อยลง ๆ หรือหายไป อันนี้อย่างหนึ่ง นี่คือการแก้ถีนมิทธนิวรณ์
ทีนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า เวลามีความง่วงเกิดขึ้นมา มีความง่วงที่เกิดจากกาลังของสมาธิ ที่มีอาการ ทบึ ๆ สลวั ๆ มวั ๆ คอ่ ย ๆ กดลงมาจากขา้ งบน จากตา...ลงมา ทตี่ า...สง่ ความรสู้ กึ ทวี่ า่ งเขา้ ไป แลว้ ขยายให้ กว้างออก สลายอาการง่วงที่มันทึบ สลาย ขยายความรู้สึกไป ขยายเป็นระยะ ๆ เป็นขณะ จนรู้สึกโล่ง โปร่ง รสู้ กึ เบาไป พอเบาแลว้ นนี่ ะ ใหเ้ พมิ่ ความตนื่ ตวั เพมิ่ ความตนื่ ตวั เขา้ มาในใจ เพมิ่ ความตนื่ ตวั เขา้ มาในความ รู้สึก แล้วมาที่ตัว ที่รูป ที่ตัวที่นั่งอยู่ เพิ่มความตื่นตัวให้เต็ม นั่นคือวิธีการแก้ ตัวถีนมิทธะอย่างหนึ่ง
หรอื ถา้ ตวั ถนี มทิ ธะ เกดิ จากความงว่ งเหงาหาวนอน ทเี่ ราแกไ้ ข กค็ อื การลกุ เปลยี่ นอริ ยิ าบถ มาเดนิ จงกรม เดนิ จงกรมหรอื ลา้ งหนา้ ลา้ งตา แตว่ ธิ กี ารทจี่ ะพฒั นาสติ ใหม้ กี า ลงั ตอ่ เนอื่ ง หรอื แกก่ ลา้ ยงิ่ ขนึ้ ไป เพอื่ การตัดตัวถีนมิทธะตรงนี้ ให้เพิ่มการกาหนดต้นจิตให้มากขึ้น กาหนดต้นจิตในทุก ๆ อิริยาบถ ในทุก ๆ อาการที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น จะขยิบกะพริบตา อ้าปาก เคลื่อนไหวต่าง ๆ ให้สังเกตต้นจิตก่อนที่จะขยับ ก่อนที่จะเคลื่อนไหว ก่อนที่จะกะพริบตา ก่อนที่จะหันซ้ายหันขวา อ้าปาก เหล่านี้ มีเจตนาที่จะรู้ต้นจิตให้ ต่อเนือง ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือวิธีการแก้นิวรณ์ ตัวถีนมิทธนิวรณ์อย่างหนึ่ง เพราะเป็นการ เพิ่มกาลังของสติเรา
เพราะฉะนั้นนิวรณ์ที่เกิดขึ้นมา นิวรณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นมา อาศัยสาเหตุหลายอย่าง แต่การที่เรา จะแก้ไข การที่เราจะจัดการกับตัวนิวรณ์ ด้วยการกาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ มีสติกาหนดรู้อาการเกิดดับ อย่างต่อเนื่อง เป็นการปรับอินทรีย์ของตนเอง เป็นการปรับสติ ปรับสมาธิ ปรับปัญญา พิจารณาให้ชัดเจน ถ้ากาหนดรู้แล้ว การที่เราละนิวรณ์ได้ในแต่ละครั้ง อันนี้เป็นสิ่งสาคัญมาก ๆ นะ บางทีโยคีไม่รู้ หรือไม่ ใส่ใจว่า ไม่มีความรู้สึกว่าเป็น...มีตัวความไม่พอใจ มีพยาบาทเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าตัวเองทาอย่างไร อารมณ์นั้น ถึงหมดไป ดับไป


































































































   362   363   364   365   366