Page 362 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 362
294
พลงั ของความสขุ เจรญิ พลงั ของความสขุ ระลกึ ถงึ ความดที ตี่ วั เองทา อยเู่ นอื ง ๆ จะทา ใหจ้ ติ มกี า ลงั มคี วาม สงบ มีพลังของความเมตตาเกิดขึ้น แล้วใช้พลังความเมตตานี้ เป็นฐานในการปฏิบัติธรรมของเรา
แต่การว่างที่เกิดขึ้นแล้ว ก็กาหนดรู้อาการเกิดดับของอารมณ์ที่เกิดขึ้น และมีเจตนาพอใจ พร้อม ที่จะดับอารมณ์อันนี้ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจะไม่สร้างกรรมต่อ ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือวาจา ที่ จะนาพาให้เจออารมณ์ เจออารมณ์ที่เป็นพยาบาท อาฆาต มีการคลุกคลีในอารมณ์อันนั้น จนเกิดความขุ่น มัวเศร้าหมอง แล้วทาให้การปฏิบัติธรรมไม่ได้ ถ้าผู้ปฏิบัติจะแยกชัดว่า ทุกครั้งที่มีผัสสะแบบนี้ขึ้นมา จะ ทาให้กาหนดอารมณ์ต่าง ๆ ได้ไม่ดี หรือบางทีจะลดได้บ้าง ลดได้บ้าง แต่ก็เป็นไปไม่นาน เมื่อมีผัสสะเกิด ขึ้นใหม่ ก็ไปเกาะเกี่ยวทันที เขาเรียกดับไม่สนิท มันดับแล้วยังมีเศษอารมณ์
เพราะฉะนนั้ การทดี่ บั ละความมตี วั ตน สงิ่ หนงึ่ ทพี่ งึ พจิ ารณากค็ อื วา่ อารมณท์ ปี่ รากฏทางตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจของเรา บางอย่างเกิดจากวิบากในอดีต เกิดจากวิบากในอดีต ที่จะทาให้อารมณ์เหล่านี้ ทาให้เรา ได้รับรสชาติ ได้รับเวทนาทางจิตแบบนี้ แต่ถ้าเมื่อรู้ว่าเป็นวิบาก แล้วทาอย่างไร หน้าที่ของผู้ปฏิบัติ มีหน้าที่ ตัดอย่างเดียว คือตัดรสชาติของอารมณ์อันนั้น แล้วไม่ปรุงแต่งต่อ คาว่าไม่ปรุงแต่งต่อ ไม่สานต่อเรื่องราว พร้อมที่จะหยุด พร้อมที่จบ พร้อมที่ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง พร้อมที่จะละ พร้อมที่จะสละอารมณ์ที่ไม่ดี ออก จากใจตัวเอง จากจิตของตนเองอยู่เนือง ๆ ให้บ่อยที่สุด ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ บอกตัวเองเสมอว่า เราจะไม่สร้างกรรม สานกรรม ที่เป็นอกุศลกรรมเพิ่มขึ้นไป
อย่างที่เราเห็นแล้วว่า แค่นี้ก็หนัก แค่นี้ก็รู้สึกไม่สบาย เป็นทุกข์แล้ว เพราะฉะนั้นอารมณ์ต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้น ที่เราได้รับรู้ ได้เห็น ถึงแม้สิ่งที่เป็นอารมณ์ที่เราเคยชอบใจ ไม่ชอบใจมาก่อน ทาให้เกิดความรู้สึก ขนุ่ มวั เกดิ ความไมผ่ อ่ งใส เปน็ ตวั ขดั ขวางการปฏบิ ตั ิ ตรงนตี้ อ้ งมคี วามเดด็ ขาด บอกตวั เอง สงั่ ตวั เองอยา่ ง ชัดเจนเลยว่า เด็ดขาดชัดเจนจะไม่คล้อยตาม เผลอไปเมื่อไหร่ รู้ตัวขึ้นมาต้องดับทันที ความรู้สึกที่ไม่ดีนั้น เผลอไป...เป็นเรื่องปกติ คนเราทุกคนย่อมมีการเผลอเป็นธรรมดา แต่ความชัดเจน การแน่วแน่ที่จะละ นั่น เป็นเรื่องสาคัญ เกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ พร้อมที่จะละเมื่อนั้น ละเมื่อนั้น ดับไปเมื่อนั้น
อันนี้อย่างหนึ่ง คือตัวนิวรณ์ ตัวที่เป็นตัวพยาบาท ท่านบอกว่าให้เจริญ...เจริญเมตตา คนที่มีโทสะ มีความจองเวร เพราะอะไร การเจริญเมตตา การเจริญความดี การทาให้จิตของตนเองมีความสุข เป็นบุญ มีความสุขเกิดขึ้นภายในใจ ระลึกถึงความดีที่ตัวเองทาอยู่เนือง ๆ มีความสุข มีความสุขเกิดขึ้นมา เมตตา เกิดขึ้น เขาจะให้อภัย ความรู้สึก...การเข้าไปยึดในสิ่งที่ไม่ดีลดลง จะมีความเมตตา และจะให้อภัยได้ง่าย ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นความสุขที่ไม่มีตัวตนด้วยแล้ว จะไม่มีเงื่อนไขว่า เพราะอย่างนั้นอย่างนี้ ต้อง สละออกจากใจตนเองให้หมด ให้เหลือแต่จิตที่มีความสงบ มีความสุข มีความผ่องใส นั่นแหละ เป็นสิ่งที่ น่าภูมิใจ
ใหใ้ สใ่ จจติ ทสี่ งบ ทผี่ อ่ งใสขนึ้ แลว้ วา่ เราสามารถเอาชนะอารมณข์ องตวั เอง เอาชนะความรสู้ กึ ในแง่ ลบของตนเอง ถึงแม้จะเกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นเป็นบางขณะ ทีนี้ต่อไปก็คือว่า เมื่อไหร่ที่ผัสสะแบบนี้เกิดขึ้นมา ก็ต้องพร้อมที่จะละ ที่จะดับทันที แล้วก็มาดูสภาพจิต ดูจิตที่สามารถละได้แล้ว มีความภูมิใจ ที่เราสามารถ