Page 392 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 392

324
เพราะการที่เราตั้งคาถามตรงนี้ให้กับตัวเอง สติปัญญาจะเกิดขึ้นมาพิจารณาความจริงของขันธ์ทั้งห้ากับ อารมณ์ทั้งหก
ทาไมถึงแยกเป็นขันธ์ ๆ ทาไมถึงแยกเป็นส่วน ๆ ? เพราะเขาเป็นคนละขันธ์ คนละเรื่อง คนละ อย่างกัน เราจะได้เห็นตามความเป็นจริง เมื่อเห็นความเป็นจริงเมื่อไหร่ จิตก็จะคลาย เพราะไม่ใช่เรา เวลาคิดแล้วเราเป็นผู้ดูความคิด จิตเรากว้างกว่าเรื่องที่คิด กว้างกว่าภาพที่เห็น กว้างกว่าเสียงที่ได้ยิน ก็กลายเป็นว่าเราเป็นผู้ดู เราไม่เข้าไปเป็น แต่เป็นผู้ดู เป็นผู้รับรู้อารมณ์อันนั้น จึงให้มีเจตนาสังเกตว่า จิตที่ ทาหน้าที่รู้กับอารมณ์ที่เกิดขึ้น เขาเป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน เหมือนเรานั่งอยู่นี่ จิตที่ทาหน้าที่รู้ กับตัวที่กาลังนั่งอยู่ตรงนี้ เขาเป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ? เขาบอกว่าเป็นเราไหม ? รู้สึกทันที! รู้สึกทันที!
รู้สึกทันทีว่า ตอนนี้เขาบอกว่าเป็นเราไหม ? ตอนนี้ใจรู้สึกเป็นไง... หนักหรือเบา ? ตอนนี้จิตกับตัว อันไหนกว้างกว่ากัน ? รู้สึกทันที! ทุกครั้งที่เห็นว่าจิตกว้างกว่าตัว รู้สึกเป็นไง ? ผลที่ตามมา จิตใจรู้สึก ? เบาสบาย นี่เป็นผลที่เกิดขึ้นกับจิตเราทันที โดยที่เราไม่ต้องไปหา เพราะฉะนั้น การสังเกตดูว่าเขาเป็น คนละสว่ นกนั หรอื เปลา่ เปน็ การแยกรปู แยกนาม เปน็ การแยกนามกบั นาม ทเี่ มอื่ กบี้ อกวา่ รสู้ กึ หงดุ หงดิ ขณะ ที่หงุดหงิด เห็นจิตที่ทาหน้าที่รู้กับอาการหงุดหงิด เขาเป็นคนละส่วนกันไหม ? ถ้าเห็นว่า “จิตที่ทาหน้าที่รู้” กับ “อาการหงุดหงิด” เป็นคนละส่วนกัน เราต้องหงุดหงิดกับเขาไหม ? อาการหงุดหงิดเป็นของเราไหม ? แต่เป็นอารมณ์ที่ต้องดับ เป็นอารมณ์ที่ต้องละ
เวลาหงุดหงิด วิธีง่าย ๆ แยก(จิตที่ทาหน้าที่รู้กับอาการหงุดหงิด)ปึ๊บ แล้วมาดูจิตเรา ถ้าจิตเราไม่ หงุดหงิด ให้พอใจตรงที่ไม่หงุดหงิด แล้วอาการหงุดหงิดเขาก็จะไป อันนี้อย่างหนึ่งนะ พอแยกจิตกับจิต จิตที่ทาหน้าที่รู้ไม่หงุดหงิด เขารู้สึกนิ่ง ๆ เป็นผู้ดูความหงุดหงิด วิธีก็คือว่า ถ้าจิตเรายังมีกาลังน้อยกว่า อารมณ์นั้น ให้นิ่งแล้วมาดูจิตที่ทาหน้าที่รู้ว่าหงุดหงิด เมื่อจิตของเรากับอาการหงุดหงิดเขาแยกส่วนกัน ให้จิตตรงนี้กว้างออก แล้วก็เอาจิตที่กว้างแล้วค่อย ๆ ซ้อนเข้าไปที่อาการหงุดหงิด ซ้อนเข้าไปแล้วเขาหาย ยังไง ? แต่ให้ใหญ่กว่าอาการหงุดหงิดนะ อย่าให้เล็กกว่าอาการหงุดหงิด เดี๋ยวซ้อนเข้าไปแล้วจมหายเลย ถูกความหงุดหงิดครอบงา เสร็จ! หายใจไม่ออก เขามีอานาจมากกว่าจิตเราอีก
แต่ทีนี้ จิตที่ว่าง/จิตที่กว้าง เขาจะกลายเป็นจิตมีกาลังขึ้น กาลังของสติ-กาลังของสมาธิเพิ่มขึ้น จากที่เรามีปัญญาเห็นว่าอาการที่หงุดหงิดกับจิตเขาเป็นคนละส่วนกัน ตรงนี้แหละคือปัญญาแยกนาม กับนาม เห็นอาการหงุดหงิดกับจิตที่ทาหน้าที่รู้เป็นคนละส่วนกัน เพราะฉะนั้น ถ้าเราปล่อยให้เขาหงุดหงิด อยู่นาน ๆ ต่อไปเขาจะถือกรรมสิทธิ์ว่าเขา เป็นเรา คืออาการหงุดหงิดนั้นเป็นเรา ไม่ใช่เราเป็นผู้ดูความ หงุดหงิด ถ้าเราไม่รีบเข้าไปดับเขา เขาก็จะแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เรากาลังหงุดหงิด เรากาลัง อารมณไ์ มด่ ี อยา่ มายงุ่ เชยี วนา ถา้ ใครเขา้ มาตอนนนั้ กถ็ กู หางเลขไปดว้ ย ถงึ แมห้ งดุ หงดิ กบั เรอื่ งอนื่ กพ็ ลอย รับอานิสงส์ไปด้วยเหมือนกัน!


































































































   390   391   392   393   394