Page 416 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 416

348
ขึ้นมา แต่เกิดจากที่เราใส่ใจ สติเราดีสมาธิเราดีไม่มีการปรุงแต่ง ก็เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นจริง ๆ ไม่ ประกอบด้วยอกุศลหรือไม่ประกอบด้วยกิเลสแล้วกเ็ห็นสภาวะที่เขาเกิดขึ้นจริงๆว่าธรรมชาติเป็นแบบนี้
แม้แต่ความคิดที่เกิดขึ้นเราไม่ปรุงแต่ง ความคิดก็ยังทาหน้าที่เยอะแยะมากมาย ทาหน้าที่เยอะ แยะมากมาย แต่ถ้าเราไม่ปรุงแต่งต่อไม่คล้อยตามนี่นะ ก็จะไม่หลงไม่ไหลตามความคิด ไม่ถูกความคิด นั้นครอบงาบีบคั้นเรา แล้วก็กลายเป็นผู้ดู ดูด้วยสติสัมปชัญญะที่ประกอบด้วยปัญญา ว่าต้องทาอย่างไร ดีอย่างไร จะใช้ประโยชน์อะไร คิดแล้วเกิดประโยชน์อะไรหรือไม่มีประโยชน์อะไร ขอให้ใส่ใจตรงนี้ ถ้า เราสรุปได้ด้วยเป็นความคิดที่ไม่จาเป็นต้องคิด มันก็จะจบเร็วขึ้น อันนี้คือการศึกษาทั้งหมด การพิจารณา สภาวธรรมของเรา นั่นคือความเป็นจริงของรูปนาม ความเป็นจริงของรูปนามของคนเรา เพราะฉะนั้นก็จะ เห็นว่าคนเราก็อยู่ตรงนี้แหละ
ทกุ คนกม็ รี ปู มนี ามมกี ายมจี ติ ทที่ า หนา้ ทเี่ กดิ ขนึ้ มา ทา หนา้ ทรี่ บั รเู้ รอื่ งราวอารมณต์ า่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ อยทู่ ี่ ใครจะมปี ญั ญาเขา้ ใจเขามากแคไ่ หน จะละปลอ่ ยวางอยา่ งไร หรอื ไหลตามมากแคไ่ หน หรอื จะทา ประโยชน์ อยา่ งไร จะทา ใหส้ งิ่ ทเี่ ปน็ ประโยชนห์ รอื ไมม่ ปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร ตา่ งกนั อยา่ งไร ทงั้ ๆ ทอี่ าการของรปู นามเกดิ ขึ้นมา ตั้งอยู่ดับไปอยู่เป็นประจาอยู่อย่างนี้ แต่คนเราเห็นไม่เหมือนกัน หรือบางคนไม่มีสิทธิ์ไม่มีโอกาส ได้เห็นเลย มีสิทธิ์แต่ไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะไม่ใส่ใจ ไม่เคยสนใจเรื่องรูปนาม เรื่องกายเรื่องจิตของตัวเอง เลยว่า จริง ๆ แล้ว ธรรมชาติเขาเป็นอย่างไร ธรรมชาติของรูปนาม คาว่ากายใจรูปนามกายใจ เขาเป็นเรื่อง ปกติทุก ๆ คน ทุกตัวตนที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ก็ประกอบด้วยกายด้วยจิตตรงนี้แหละ เขาเรียกรูปนาม ความเป็นจริงตรงนี้
แต่ความอยากความต้องการของคนเรามีความแตกต่างกัน ด้วยจริต ด้วยปัญญาที่เกิดขึ้นมามี ความแตกตา่ งกนั กท็ า ใหเ้ ราคดิ ในเรอื่ งทเี่ ขา้ มากระทบแตกตา่ งกนั ไป มคี วามยนิ ดพี อใจในอารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ มีความแตกต่างกันไป และคนเราเมื่อมีความยินดีพอใจในอารมณ์ที่เข้ามากระทบ ทางตาหูจมูกลิ้น กายใจที่เกิดขึ้น ก็จะทาให้เราทาสิ่งนั้น ๆ หรือทากรรม อารมณ์เหล่านั้นเป็นปัจจัยให้การสร้างกรรมใหม่ ต่อไปเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้นสาหรับผู้ที่ต้องการพ้นทุกข์ออกจากทุกข์ ออกจากวัฏสงสารนี่นะ จึงมาพิจารณาความ จริงว่า จริง ๆ แล้วการทาหน้าที่ของรูปนาม ขันธ์ ๕ ตอนนี้ ถ้าไม่ถูกปรุงแต่ง เรารู้ด้วยสติปัญญาจริง ๆ ไม่มีการปรุงแต่ง พิจารณาถึงความเป็นไป การเกิดดับของเขาอยู่เนือง ๆ ยิ่งเห็นการเกิดดับของรูปนาม เปลี่ยนไป ใจกลับรู้สึกอิสระว่างแล้วไม่ต้องการอะไร เพราะใจเราต้องการความอิสระความว่าง มันจะรู้สึก สบาย ๆ เมื่อรู้สึกสบายเราทาอะไรก็มีความสุข ทากิจกรรมประจาวัน ทาหน้าที่ มีภาระอะไร ต้องทาตาม หน้าที่ที่พึงกระทา ก็ทาไปด้วยความสงบ ไม่ได้ทาไปด้วยความบีบคั้น ไม่ทาไปด้วยความรู้สึกถูกบีบคั้น ทางด้านจิตใจของเรา เพราะฉะนั้นการเห็นแบบนี้ จะทาให้จิตเราอิสระขึ้นสบายขึ้นผ่อนคลายขึ้น จึงเป็น สิ่งสาคัญว่า ถ้าเราอยากที่จะอิสระอยากสงบ อยากอยู่อย่างสบาย ไม่ทุกข์หรือทุกข์น้อย จึงพอใจที่จะรู้ถึง การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปของทุก ๆ อารมณ์ ที่เข้ามาในชีวิตของเรา


































































































   414   415   416   417   418