Page 414 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 414

346
ความชัดเจนในสภาวธรรมที่เกิดขึ้น มีความชัดเจนในอาการพระไตรลักษณ์ เห็นชัดในการเกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป ตรงนี้เห็นชัดในสภาวธรรมที่กาลังปรากฏ เพราะฉะนั้นในการปฏิบัติบางครั้ง จึงนั่ง ให้เวลาการนั่ง สมาธิเจริญกรรมฐาน บางครั้ง บัลลังก์หนึ่ง ๆ ก็ต้องเพิ่มเวลาให้กับตนเอง ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง หรือ ๔๕ นาที ถึง ๑ ชั่วโมง หรือชั่วโมงกว่า ๆ ก็เพื่อความต่อเนื่องของการเจริญสติของเรา เพื่อความต่อเนื่องของการ เจริญสติ ในการพิจารณาสภาวธรรมที่กาลังปรากฏ แล้วสติเราจะยิ่งต่อเนื่อง สมาธิก็ยิ่งตั้งมั่น ปัญญาใน การพิจารณาสภาวะก็ยาวนานละเอียด ทาให้ละเอียดมากขึ้น
เพราะฉะนนั้ สภาวะอะไรกต็ าม ทกี่ า ลงั ปรากฏอยตู่ รงนี้ ขอใหส้ นใจใหด้ ี สนใจมาก ๆ ตงั้ ใจรตู้ งั้ ใจทจี่ ะ เขา้ ไปดู เพราะเรากา ลงั ศกึ ษาสภาวธรรม อาการของรปู นามทกี่ า ลงั ปรากฏอยเู่ ฉพาะหนา้ เรา จะเปน็ ความงว่ ง ที่เรียกว่านิวรณ์ เราก็กาหนด เราจะละเขาอย่างไรดับอย่างไร ไม่ใช่ดูแล้วไม่ใส่ใจ พอเขาง่วงขึ้นมามีปัญหา รู้สึกว่าเป็นปัญหาของเรา กาหนดเลย อาการอื่นไม่ชัด ความง่วงชัดขึ้นมา และอาการอื่นก็ไม่เห็นเลยรู้สึก มัว ๆ สลัวไปหมดนั้น อย่ากระนั้นเลย เราเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนตาแหน่ง เปลี่ยนเป้าหมายแทนที่จะรอ อาการเกิดดับ มาจัดการดับ มาจัดการดับความง่วงเอง มีสติเข้าไปกาหนดรู้ รู้จักขยายพุ่งออกไป จะสลาย อย่างไรก็ที่เราเคยรู้ มาเคยเรียนมาศึกษามา เราเคยทาได้แล้ว ก็เอาวิชานั้นมาใช้
ขยายให้กว้าง ๆ ๆ ให้มันทะลุ ๆ ออกไป กว้างเท่าท้องฟ้า รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาก็ยกจิต...นิ่ง เพิ่มพลัง ให้กับตัวเอง แล้วก็พอความง่วงจะมาใหม่ จัดการกับความง่วงอีก อาการเกิดดับอย่างอื่นยังไม่ต้องห่วงนะ จัดการความง่วงจนหมดไป แล้วลองดูว่า เรากาหนดความง่วง กาหนดแล้วความง่วงจางไปสลายไปสว่าง ขนึ้ มา พอสวา่ งขนึ้ มาปบุ๊ แลว้ แทนทจี่ ะไปหาอาการเกดิ ดบั กด็ วู า่ จติ เราสวา่ งขนึ้ มาแลว้ ดอู ะไรกด็ จู ติ ทสี่ วา่ ง ต่อนั่นแหละ
สารวจเข้าไปดูจิตที่สว่าง ทาจิตที่สว่างแล้วให้สว่างมากขึ้น ให้กว้างขึ้นให้แผ่ไปทั้งตัว ตัวเราจะได้ ตื่นเขาเรียกตื่นตัว ตัวก็จะตื่นขึ้นมา กายตื่นจิตตื่น หรือจิตตื่น จิตตื่นตัวกายก็ตื่นตัวไปด้วยกัน รูปก็มี ความตื่นตัวไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนั้น สติเราก็จะมีกาลังมากขึ้น พอมีกาลังมากขึ้น พอนิ่งปั๊บ เดยี๋ วอาการเกดิ ดบั อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ กจ็ ะปรากฏชดั ขนึ้ มาเอง อาการเกดิ ดบั อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ กจ็ ะปรากฏชดั ขึ้นมา เราก็กาหนดรู้อาการเกิดดับนั้นต่อไปนะ ทาแบบนี้ สภาวะเขาจะปรากฏขึ้นมาเอง
ถ้าสติเราดี สมาธิเราชัดเจนขึ้นตั้งมั่นขึ้น อาการก็ปรากฏขึ้นมาเอง ลองดู แต่ตอนนี้ให้สังเกต...นิ่ง แลว้ กส็ งั เกตอาการทปี่ รากฏเฉพาะหนา้ เราใหช้ ดั รวมทงั้ ความเยน็ ความรอ้ น อาการเครง่ ตงึ ความหนกั ความ เบาที่เกิดขึ้นตามร่างกายของเรา อันไหนชัดขึ้นมาเข้าไปรู้ว่าอาการนั้นแหละ ทันที ๆ ทาทันทีเข้าไปกาหนด รู้ทันที การเข้าไปกาหนดรู้นี่นะ ต้องสังเกตไปเลยว่าเข้าไปกาหนดรู้แล้ว ดับอย่างไร รู้แล้วดับอย่างไร รู้แล้ว ดับเปลี่ยนอย่างไร การสนใจแบบนี้นะจะทาให้เราคลาย แล้วก็ดับอารมณ์ได้ด้วย จิตคลายอุปาทาน เราก็ ดับอารมณ์ได้ด้วย แล้วเห็นว่าอารมณ์นั้นดับอย่างไรด้วย ไม่ใช่แค่รู้เฉย ๆ เพราะฉะนั้นสังเกตให้ดี พอมี ความคิดเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเบาบางแค่ไหนก็ตาม เบานิดหนึ่งรู้สึกแว็บเข้ามา แว็บเข้ามาก็รู้สึกทันที แว็บเข้า มาหายให้รู้สึกชัดว่าแว็บแล้วนะหายแล้วนะพอหายไปแล้วดูอารมณ์ปัจจบุันต่อเดี๋ยวแว็บเข้ามาใหม่ก็ให้


































































































   412   413   414   415   416