Page 504 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 504

436
อริ ยิ าบถ...ทนั ที เพมิ่ ความเขม้ แขง็ ใหต้ วั เอง เขากส็ ลดั ออกไป ทนี เี้ รารอู้ ยแู่ ลว้ พอความงว่ งแบบนเี้ กดิ ขนึ้ มา ปึ้บนี่นะ การที่จะแก้...การกาหนดรู้ดูอาการ ไม่ใช่แค่...ถ้านั่งมองแล้วบอกว่า ความง่วง แล้วก็นั่งมองความ ว่างอยู่นั่น แล้วก็นั่งจ้องแบบนี้...ไม่ได้
สว่ นใหญใ่ หด้ ู กา หนดดสู วิ า่ ความงว่ งเปน็ อยา่ งไร แลว้ เรากน็ งั่ มอง ออ๋ ! มนั กวา้ งขนาดนี้ กวา้ งขนาด นี้แล้วมันก็หลับ ก็ต้องแบบเห็นชัด อ๋อ! เป็นแบบนี้ เข้าไปกาหนดรู้แล้วอย่างหนึ่ง ที่จริงแล้ว จุดที่เราสังเกต ความง่วงที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ที่ไปมองความง่วง เคยสังเกตไหมว่า ความง่วงที่มันครึ้ม ๆ ทึบ ๆ แล้วเราก็ มองความง่วงอยู่เล็ก ๆ นี่นะ แล้วมองเขา เราก็ฝืน ๆ กลับเป็นดันไม่ได้
จริง ๆ ลองดูตัวนี้นิดหนึ่ง ตัวเองเป็นอย่างไร ความง่วงมันอยู่ตรงนี้ ตัวนี้เป็นอย่างไร ๆ ความง่วง มันทับตัวไหน คือทับตัวนี้ สังเกตลองนิดหนึ่งว่า ถ้าตัวนี้กว้างออกด้านข้างแล้วเป็นอย่างไร ตัวให้กว้าง ออก แล้วอ้อมมาคลุมความง่วงได้ไหม เอ่อ! ไม่แน่นะ เดี๋ยวลองดูแล้วกัน เพราะเราขยายจิตที่ว่าง ๆ กว้าง เท่าศาลาได้ ความง่วงมันอยู่แค่นี้นะ ให้มันกว้างออกด้านข้างและคลุม แล้วก็สลายความง่วงได้ไหม อันนี้ อย่างหนึ่ง
แต่จริง ๆ ท่านแม่ครูท่านสอนแบบนี้ พอมีความง่วงเข้ามา เอาจิตที่ว่าง ๆ เข้าไปแล้ว มันทะลุขึ้น ไปข้างบน ทะลุสมอง ทะลุไปจนถึงท้องฟ้าเลย จริง ๆ ก็คือว่า เราสามารถกาหนดจิตแบบนี้ได้ ที่ต้องรู้ก็ คือว่า เราสามารถกาหนดจิตแบบนี้ได้ หายเร็วหายช้านั่นอีกอย่างหนึ่ง นั่นหมายถึงว่า เรามีอานาจ มีสิทธิ์ที่ จะกาหนดใช้งานจิตที่ดีแล้ว เอามาใช้งานแบบไหนก็ได้ เพื่อจัดการกับปัญหาที่กาลังปรากฏอยู่ เพื่อจัดการ กับปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะเราฝึกจิตของเรา เราฝึกจิตทาให้จิตว่าง จิตตั้งมั่น แยกจิตกับอารมณ์ แยกส่วนกันแล้วก็ กา หนดรแู้ บบนี้ เอามาใชป้ ระโยชน์ มาทา มาใชง้ านตอ่ ไป ใหเ้ กดิ ความตอ่ เนอื่ งมกี า ลงั มากขนึ้ เพอื่ ประโยชน์ ในการ เอ่อ! พอความง่วงห่างไป...ประโยชน์ในการเจาะสภาวะ อันที่จริงแล้ว ตอนที่เรากาหนดอาการของ ความงว่ ง กเ็ ปน็ การเจาะสภาวะอยา่ งหนงึ่ เจาะอยา่ งไร การกา หนดรคู้ วามงว่ ง แลว้ ความงว่ งคอ่ ย ๆ กระจาย สลายเป็นขณะ ๆ กลายเป็นอาการเกิดดับ แม้แต่ตัวจิตเองที่ไปรู้นี่นะ ถ้าเห็นตัวจิตที่ไปรู้ เข้าไปกาหนดรู้ แล้วดับด้วย ก็จะตื่นเร็วมาก
เพราะอะไร การที่ปัญญาเห็นการเกิดดับของตัวจิตตัวรู้เอง สติย่อมมีกาลัง สติจะมีกาลัง แล้วก็ รู้ ๆ ๆ ๆ แล้วก็มีความเด็ดขาด แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องมีเจตนา ที่จะกาหนดรู้ให้ชัดนะ ไม่ใช่แค่ทาไป เรื่อย ๆ ๆ ๆ อันนั้นนะ ความง่วงไม่ใช่ฝุ่น แค่เช็ดเบา ๆ แล้วก็จะหาย มันเหมือนกับ โอ้โห! มันเหมือน... บางครั้งเหมือนกับเมฆฝนใหญ่ ๆ ทึบ ๆ คลุมลงมา อันนี้ต้องกาหนด เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่า ความง่วง ก็เป็นอารมณ์ เป็นสภาวธรรม เป็นกรรมฐาน
แ ต ใ่ น ก า ร . . . ใ น บ ญั ญ ตั ใิ น ป ร ยิ ตั ิ เ ข า บ อ ก ค ว า ม ง ว่ ง เ ป น็ ต วั ถ นี ม ทิ ธ ะ ถ นี ม ทิ ธ ะ เ ป น็ ต วั ก เิ ล ส เ ป น็ น วิ ร ณ ์ มาขัดขวางการปฏิบัติ ถ้าเราเอาความง่วงมาเป็นอารมณ์ ก็เหมือนโทสะ เหมือนกิเลสต่าง ๆ ที่เอามาเป็น


































































































   502   503   504   505   506