Page 535 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 535

467
ให้เติม...นึกถึงความดีก่อนที่จะแผ่เมตตา แต่เราน้อมบุญกุศลก่อนที่จะแผ่เมตตา แต่เราน้อมระลึกถึงบุญ กุศลมาใส่ ก่อนที่เราจะพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ ตรงนี้เอาพลังบุญมาหนุนการปฏิบัติ อย่างที่เราบอก ว่า การที่ทาบุญไว้เยอะแยะ เพื่อเกื้อหนุน...ให้ชีวิตเรา เพื่อให้ธรรมะ ให้เราพ้นจากทุกข์ จริง ๆ บุญที่จะเกื้อ หนุนให้เรามีสติ มีสมาธิ มีปัญญา พิจารณาสภาวธรรม เพื่อพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์
ตรงนี้แหละ พอเราน้อมถึงบุญที่เราเคยทา ทาให้ใจเรามีความสงบ มีความสุข เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามี ความสุข จิตก็จะสงบได้ง่าย เขาไม่วุ่นวาย ไม่กระสับกระส่าย ไม่หงุดหงิด ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ราคาญ ไม่มีอาการ กระวนกระวายเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น การที่เราน้อมถึงบุญ...ใส่ใจของเราให้เต็ม จากนั้น ก็มาพิจารณาอาการ ที่เกิดขึ้นข้างหน้าเรา อาการที่เกิดขึ้นข้างหน้า อะไรที่ชัดเจน อารมณ์สภาวธรรมที่ปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าเรา อย่างที่เคยพูดไปแล้ว หนึ่งก็คืออาการทางกาย ลมหายใจ หรือมีแสง มีสีขึ้นมา หลับตาลงแล้วมีความสว่าง ขึ้นมาข้างหน้า
ในขณะทใี่ จเรามคี วามสขุ ...หลบั ตา ขา้ งหนา้ มคี วามสวา่ ง มคี วามนวล ๆ ขนึ้ มา กร็ เู้ ขา้ ไปวา่ เขามกี าร เปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อ รู้เข้าไปว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตรงนี้คือสภาวธรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า แต่ถ้าหากว่าหลับตาลง...มีความสุข แล้วมาดูตรงนี้ เขามีอาการกระเพื่อม...ที่ตัวเรา เหมือนกับไม่มีรูปร่าง ของตัว มีอาการกระเพื่อมปึ๊บ เบา ๆ ก็มีสติตามรู้อาการกระเพื่อมนั้นไป ตรงนี้คืออาการเกิดดับ ทาไมถึง เรียกว่าอาการเกิดดับ เพราะเขามีแล้วหมดไป มีแล้วหมดไป เกิดขึ้นแล้วก็หายไป เกิดขึ้นหายไป จึงเรียก ว่าเกิดดับ
เป็นอาการเกิดดับของอะไร ก็เป็นอาการเกิดดับของรูปของกายนี่แหละ แต่เป็นอาการ ไม่ใช่รูป ทงั้ หมดทเี่ กดิ ดบั แตภ่ ายใน...รปู ภายใน อาการขา้ งในรปู เรามกี ารเปลยี่ นแปลง กระเพอื่ มแลว้ หมดไป มแี ลว้ หายไป อาการกระเพอื่ มภายในเกดิ จากอะไร เกดิ จากอาการเวลาเราหายใจเขา้ ออก หรอื อาการในรา่ งกายเรา จริง ๆ นะ เขามีการเกิดดับอยู่ เหมือนอาการชีพจร ก็คือการเต้นของหัวใจ การสูบฉีดของเลือด แต่ในขณะ เดียวกัน เราไม่ได้เห็นถึงสีสัน รูปร่างของเลือด แต่รู้สึกถึงอาการวุบ ๆ วุบหาย ๆ ๆ ก็เป็นอาการเกิดดับ ตรงนี้ จึงเรียกว่า เป็นอาการเกิดจากของรูป
และการรู้อาการเกิดดับแบบนี้ อย่างที่บอกว่า พอเรารู้อาการของรูป อาการวูบวาบตรงนี้หมดไป หรืออาการพองยุบ ตามรู้อาการของลมหายใจ จากที่เขามี...เป็นเส้น เป็นแผ่น เป็นคลื่นไป พอรู้ไปเรื่อย ๆ นี่นะ พอลมหายใจหายไป พองยุบหายไป อาการเต้นของหัวใจหายไป อะไรหายอีก ตัวทั้งหมดนี่ก็ว่างไป หายไป เริ่มจากรูปละเอียด รูปที่มีการเปลี่ยนแปลง ตรงนี้แหละ จึงบอกว่า การที่เราปฏิบัติธรรม เรามีสติรู้ อยู่กับปัจจุบัน รู้การเปลี่ยนแปลงตรงนี้ จิตก็จะคลายจากอุปาทาน โดยที่เราไม่ต้องบอกว่า ต้องปล่อยวาง นะ ต้องลืมนะ ไม่มีตัวนะ ไม่ต้องบอกอย่างนั้น ถ้าสติรู้อยู่กับปัจจุบัน พอจิตเราละเอียดขึ้น เขาก็จะคลาย ออกไป ค่อย ๆ ว่าง ค่อย ๆ เบา
และที่เราสัมผัสได้เลยก็คือว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ที่สติเรารู้อยู่กับปัจจุบันแบบนี้ อาการของลมหายใจ เริ่มบาง ๆ เริ่มเบา ๆ ละเอียดไป จนแทบจะมองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ หรืออาการพองยุบเริ่มเบา ๆ ๆ ๆ ไป


































































































   533   534   535   536   537