Page 839 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 839
771
ทนี ี้ ทา อยา่ งไรความเปน็ กศุ ลถงึ จะตอ่ เนอื่ ง ? วธิ กี ค็ อื วา่ เมอื่ มคี วามคดิ เปน็ กศุ ล ยงิ่ คดิ จติ ยงิ่ ผอ่ งใส ส่วนหนึ่งที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปคือว่า ควํามคิดที่เกิดขึ้น คิดถึงเรื่องดีเรื่องนี้ปึ๊บเขําก็ดับแบบนี้ คิดถึง เรื่องนี้ ดับปึ๊บ จิตยิ่งใสขึ้น คิดเรื่องนี้จบปุ๊บ ดับ จิตยิ่งใสขึ้น มีควํามสุขมํากขึ้น... นั่นเราบอกถึงลักษณะ อาการเกิดดับของความคิดด้วย และรู้ถึงผลที่เกิดขึ้นมาด้วย เป็นการเล่าสภาวะ - เห็นทั้งลักษณะการดับ และผลที่ตามมา ยิ่งคิดจิตยิ่งผ่องใสยิ่งสุข แต่ก็เห็นเกิดดับ เกิดดับ... ตรงนี้เราจะได้ไม่คล้อยตามหรือ หลงไปกับความคิดอย่างเดียว แต่จะมีเพียงสติคอยกาหนดตามรู้ความคิดที่เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ ตรงนี้วิธีเล่า สภาวะ
ทีนี้ เพื่อความต่อเนื่องของสภาวะ อย่างเมื่อกี้บอกความคิดเป็นความคิดที่เป็นกุศล เขาดับเด็ดขาด วุบไปแล้วจิตใสขึ้น วุบแล้วจิตใสขึ้น... พอสักพักกาหนดไปเรื่อย ๆ เราหยุด พอหยุดปึ๊บมีความคิดใหม่ เกิดขึ้น เป็นความคิดสัพเพเหระหรือความคิดทั่ว ๆ ไป เวลาเล่าก็คือว่า ควํามคิดมันเปลี่ยนไปแล้ว จํากที่ เมื่อเช้ําคิดแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้นเลย พอสักพักจิตเปลี่ยนจํากควํามสุขเป็นควํามสงบ เริ่มคิดโน่นคิดนี่คิด สัพเพเหระทั่วไป คือเราบอกว่ามันเปลี่ยนเรื่องคิดเป็นสัพเพเหระแล้วนะ... แต่ว่าเขาเกิดดับอย่างไร ?
ควํามคิดที่เกิดใหม่เขําดับต่ํางจํากเมื่อกี้ตรงที่ว่ํา พอลอย ๆ มําบําง ๆ แล้วก็หมดไป ขึ้นมําแบบ บําง ๆ แล้วก็หมดไป... นี่คือเล่าถึงอาการเกิดดับของความคิด ถ้าเล่าแบบนี้อาจารย์จะได้รู้ว่า ถึงแม้ความ คิดเกิดขึ้นมาก็ตาม แต่สติเรามีมากน้อยแค่ไหน อันนี้ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งโยคีเองจะได้รับรู้ว่า ถึงแม้ จะมีความคิดเกิดขึ้นมาเยอะก็ตาม ถ้ากาหนดแบบนี้เราจะเห็นว่า ความคิดที่เกิดขึ้นมาใหม่ส่งผลต่อ สภาพจิตของเราอย่างไร - เหมือนเดิม หรือต่างไปอย่างไร ? เป็นความคิดที่บางกว่าเดิม เบากว่าเดิม แล้ว จิตก็ยังมั่นคงตั้งมั่น เพราะฉะนั้น ความคิดที่เกิดขึ้นใหม่ก็ไม่รบกวนใจของเรา - อันนี้เป็นความคิดทั่วไป
แต่ถ้าเป็นความคิดที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น - ขณะที่จิตเราสงบขึ้นแล้ว ความคิดที่เกิดขึ้นมานี่เขามี น้าหนักเป็นกลุ่มก้อนทึบ ๆ หรือว่าเป็นก้อนก็จริงแต่บางกว่าเมื่อก่อนที่เคยเกิด ถ้าเราเปรียบเทียบแบบนี้ เราจะชดั วา่ มคี วํามคดิ ขนึ้ มําแลว้ จติ ทเี่ ปน็ อกศุ ลมนั สนั้ กวํา่ เดมิ มนั เบํากวํา่ เดมิ เกดิ ปบ๊ึ ดบั เลย เกดิ ปบ๊ึ ดบั เลย... การเปรียบเทียบตรงนี้เป็นการรู้ถึง “อายุของอารมณ์” ด้วย อายุของอารมณ์อกุศลที่เคยติดอยู่ในใจ เรานานมันลดลง ถึงแม้เขาจะเกิดต่อเนื่อง ดับแล้วเกิด ดับแล้วเกิด ดับแล้วเกิด... เราจะเห็นเลยว่าถึงแม้ เกิดใหม่ก็ตาม แต่เกิดขึ้นมาใหม่ยิ่งบางกว่าเก่าบางกว่าเก่า...
ถ้าบางกว่าเก่านี่ รู้สึกเป็นอย่างไร ? ถ้าความคิดที่เป็นอกุศล อายุเขาสั้นกว่าเดิม เบากว่าเดิม สภาพ จิตเรารู้สึกเป็นอย่างไร ? ดีขึ้นใช่ไหม ? ดีขึ้น ดีขึ้นตรงนี้ดีแบบไหน ? สงบขึ้น มั่นคงขึ้น อารมณ์นั้นกระทบ จิตใจเราน้อยลง เราจะเห็นจิตที่พัฒนาขึ้น การปฏิบัติเราก้าวหน้าขึ้นแค่ไหน แต่โยคีก็มักจะ คิดอีกแล้ว คิด อะไรไม่รู้คิดอีกแล้ว... ตรงนี้คือปัญหา การที่เราไม่สังเกตถึงความเปลี่ยนไป เราก็มัวแต่จะเล่าว่าไม่อยาก ให้เกิด ถ้าเราใช้คาว่า “ความคิดเข้ามาอีกแล้ว รบกวนอีกแล้ว!” นั่นแสดงว่าเราไม่อยากให้ความคิดเกิด เพราะเราไม่อยากคิดเรื่องที่เราไม่ชอบ เราก็เลย อย่ามานะ อย่ามานะ... ตอนนี้ฉันกาลังจาศีลอยู่!