Page 13 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 13

191
บางครั้งเรามักจะเลือกสิ่งที่อยู่ไกลมือที่เอื้อมไม่ถึง แล้วเราก็ตะเกียกตะกาย ไอ้ที่อยู่ใกล้มือยังไม่ ยอมทาเลย! บางทีมีหลาย ๆ เรื่องหลาย ๆ อย่างขึ้นมาพร้อมกัน เขาเรียกหลาย ๆ อารมณ์เข้ามา จะทาอัน ไหนดี ? จะทาอันไหนก่อนดี ? อันนั้นก็เสียดายอันนี้ก็เสียดาย ไอ้ที่เสียดายมาก ๆ อยู่ไกลมาก ๆ เอื้อม ไม่ถึง ที่อยากมาก ๆ ถึงอยากก็ทาไม่ได้ แล้วจิตก็สับสน เพราะฉะนั้น เริ่มนับหนึ่งจากสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ที่เรา หยิบได้ จับได้ ทาได้ แล้วจิตมันจะจัดระเบียบทีละอย่าง ทีละเรื่อง ทีละเรื่อง ทีละเรื่อง... เดี๋ยวที่อยู่ไกลก็ จะใกล้เข้ามา แล้วก็ไปถึงเอง ลองสังเกตดูนะ
สภาวะเราก็เหมือนกัน สภาวธรรมที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าเราไม่สนใจ อยากจะหาอาการเกิดดับก่อน! ลมหายใจยงั ไมด่ ู ดอู าการเกดิ ดบั กอ่ น พออาจารยบ์ อก ไปรอู้ าการเกดิ ดบั ตอ่ วา่ เปน็ ไปยงั ไง พอความคดิ มา เอาไวก้ อ่ น จะเจาะหาอาการเกดิ ดบั กอ่ น ความคดิ เอาไวท้ หี ลงั หาเทา่ ไหรก่ ไ็ มเ่ จอ ยงิ่ หายงิ่ คดิ ยงิ่ หายงิ่ กงั วล ความคิดเกิดขึ้นมา ไม่เอาแล้ว เอาไว้ทีหลัง ความคิดก็ไม่กาหนดด้วย เพราะว่าไม่ไหวแล้ว นั่งไม่ติดแล้ว อันนี้คืออย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น การกาหนดอาการเกิดดับ พอนั่งปุ๊บนี่เริ่มด้วยอารมณ์ปัจจุบัน สังเกตไหม วา่ การเรมิ่ ดว้ ยการกา หนดอารมณป์ จั จบุ นั เปน็ การตอ่ ยอดของอารมณท์ ผี่ า่ นมา สภาวะจะตอ่ จากทผี่ า่ นมา ? เพราะอะไรสติของเราจึงต่อเนื่องจากที่ผ่านมา ?
ถงึ แมอ้ าการเกดิ ดบั ไมใ่ ชข่ องทผี่ า่ นมากอ่ นหนา้ นี้ แตส่ ตขิ องเราจะตอ่ เนอื่ งกนั สมาธจิ ะเพมิ่ ขนึ้ จาก ที่ผ่านมา มันก็เลยกลายเป็นว่าต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น เริ่มปัจจุบันจะเข้าสู่ปรมัตถ์ได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ก่อนหน้านั้น เราเคยเข้าสู่ปรมัตถ์ เข้าสู่ความว่าง เห็นอาการเกิดดับชัดเจนแล้วก็ตาม แต่พอเราออกจากกรรมฐานแล้วก ลับมาใหม่ เราเริ่มด้วยอารมณ์ปัจจุบันอีก แป๊บเดียวก็จะเข้าสู่ตรงนั้นได้ง่ายขึ้น สภาวะจะเป็นแบบนั้น ถ้า เราพยายามจะหาสภาวะปรมัตถ์เหมือนตอนที่เราวางเอาไว้ก่อน โห! อันนั้นเหนื่อยมากเลย เพราะตอนที่หา จะประกอบด้วยตัวตน มีแต่ความอยาก ยิ่งอยากก็ยิ่งมีเรา ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก ยิ่งอยากก็ยิ่งหยาบ คือจิตเรา หยาบขึ้น ไม่ละเอียด อยู่ในอารมณ์บัญญัติก็เลยไม่เห็น เข้าถึงอาการนั้นได้ช้า
เพราะฉะนั้น วิธีคือ ที่เคยบอกแล้วว่า นิ่งแล้วยกจิตขึ้นสู่ความว่าง ถ้าว่างอยู่แล้วไม่ต้องยก การ ยกจิตขึ้นสู่ความว่างนี่เป็นเบื้องต้น สมมติว่า ตั้งแต่วันแรกมายกจิตขึ้นสู่ความว่างได้ครั้งเดียว หลังจาก นั้นยกไม่ได้เลย อันนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องดูนะที่ยกไม่ได้เพราะมันว่างอยู่แล้ว ยกครั้งเดียวแล้วว่างตลอด จนถึงปัจจุบันนี้ดีมากเลยนะ เราก็นิ่งดูก่อนว่า เออ! มันยังว่างอยู่นะ ตอนนี้ยกจิตขึ้นสู่ความว่างไม่ได้ แล้ว ตอนนี้มันไม่ว่างหรือเปล่า ? ถ้าว่างอยู่ไม่ต้องยก ให้นิ่งเข้าไปรู้จิตที่ว่างเอง แล้วอะไรเกิดขึ้นในความว่างนั้น ต่อ ? ทาแบบนั้นไปเลย! เราจะยกจิตขึ้นสู่ความว่างต่อเมื่อมันไม่ค่อยว่าง จะทาจิตให้กว้างก็ต่อเมื่อรู้สึกว่า จิตเราแคบ จะทาให้กว้างตอนที่จิตกว้างแล้วก็ไม่รู้จะกว้างถึงไหนอีก กว้างหรือยังก็ไม่รู้ อันนี้ก็มี
เ พ ร า ะ ฉ ะ น นั ้ จ งึ ต อ้ ง ส งั เ ก ต ท กุ ๆ ข ณ ะ ท กุ ๆ อ ริ ยิ า บ ถ ท กุ ๆ ส ภ า ว ะ ท เี ่ ป น็ อ า ร ม ณ ป์ จั จ บุ นั ท กุ ๆ ข ณ ะ จะมีปัจจัยที่ทาให้หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงเสมอ อย่าคิดว่าเขาจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง อย่าคิดว่าเขา จะเป็นอย่างนี้ทุกบัลลังก์ อย่าคิดว่าชีวิตเราจะเป็นอย่างน้ีทุกวัน จริง ๆ แล้วก็มีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป เรอื่ ย ๆ เหมอื นสภาวธรรมทเี่ กดิ ขนึ้ เดยี๋ วหนาวเดยี๋ วรอ้ น หนาวมากหนาวนอ้ ย ทกุ ขม์ ากทกุ ขน์ อ้ ย เดยี๋ วซมึ


































































































   11   12   13   14   15