Page 11 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 11
189
ต่างกันอย่างไร สภาวะที่เกิดขึ้นเร็ว/ช้า เราก็บอกได้ทันทีว่าอันนี้เรียกว่าเร็วอันนี้เรียกว่าช้า นั่นคือสรุป ได้เลยสภาวธรรมที่เกิดขึ้น
อีกอย่างหนึ่ง ที่เห็นนั้นถูกหรือเปล่า ? ที่อาจารย์พูดไปแล้ว อย่ากังวลว่าถูกหรือผิด ก็ยังมีอยู่! เอ๊ะ! มันถูกไหม ผิดไหม ถูกไหม... ทาไมเป็นอย่างนี้!? มีเรื่องเล่านะ คนสุดท้ายนี่เขาบอกว่า ทาไมมันรู้ เยอะจัง!? ผิดหรือเปล่า? ทาไมสติเราไวขนาดนี้ รู้ทุกอย่างเลย!? ถามว่า สภาพจิตใจเป็นไง ? มันเบิกบาน ผ่องใส สงสัยปฏิบัติผิดแล้วแหละ ทาไมถึงเป็นอย่างนี้ มันรู้เยอะ!! เขาไม่รู้เหตุผลว่าทาไมรู้ได้เยอะ แล้ว จิตที่ผ่องใส ถามว่า ผิดตรงไหน ? รู้เยอะ แล้วจิตสว่าง จิตสะอาดขึ้น แล้วผิดตรงไหน ? นี่คือคาถามนะ
เราปฏิบัติเพื่อขัดเกลาจิตใจของเรา เพียงแต่ว่า ตอนนี้มันรู้ทันไปหมดเลย อาการตรงนั้นเกิดก็ รู้ทัน ตรงนี้เกิดก็รู้ทัน ยิ่งเห็นยิ่งรู้ทันมากเท่าไหร่จิตยิ่งผ่องใสยิ่งสะอาดขึ้น... ฟังแล้ว เออ! รู้เหตุผลที่ตาม มา ไม่ใช่ โอว! มันรู้เยอะไปหมด เลยเบื่อ ไม่อยากจะรู้แล้ว แล้วสภาพจิต ? ใส แต่ก็ไม่อยากจะรู้ขนาดนั้น อันนี้แสดงว่าไม่เข้าใจ เคยมีนะ โยมคนหนึ่งเขาชอบปฏิบัติชอบเข้าฌานมากเลย มาหาอาจารย์ เนสัชชิก ทั้งคืนเลยอาจารย์ เป็นยังไงบ้าง ? โห! มันสงบเงียบ เวลาผมกรวดน้านะ จิ้งจกมันมาเป็นแถว พอถึงเวลา จะกรวดน้าแผ่เมตตา จิ้งจกมันก็มาร้องจิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ จิ๊บ ๆ เหมือนจะรู้เรื่องกัน มีเพื่อนแล้ว!
เขาก็ทาอย่างนี้ทุกวัน ๆ สงบมาก ๆ ที่เขาทาเขาก็ทาแบบของเขานะ อาจารย์ก็ เออ! ดีแล้ว ทา ไปเถอะ เขาไม่ถามอาจารย์ว่าสอนอะไร...อาจารย์ก็ไม่บอก! อาจารย์เป็นคนใจดีไง ตามใจโยคี เขาไม่ถาม อาจารย์ เจออย่างนี้ทายังไง ? ถ้าเขาถาม ทาแบบนี้ ทาถูกไหม ? อาจารย์ก็จะบอก เออ! ถูกแล้ว แต่เพิ่ม ตรงนจี้ ะดขี นึ้ นะ ถา้ เขาถามอยา่ งนนั้ กจ็ ะบอกวา่ ลองเพมิ่ ตรงนดี้ สู ิ จะไมเ่ ปลยี่ นของเขาทงั้ หมด เพราะวา่ เขา กาลังมีความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองปฏิบัติอยู่ ถ้าบอกอันนั้นไม่ถูก จิตตกวูบนี่ ต้องยกจิตกันแย่เลย! นั่น คือสภาวะ จึงให้ดูว่าสภาวะที่ต่อมาเป็นยังไง
พอให้เพิ่มต้นจิต เขาขับรถไป พอรู้ต้นจิตปุ๊บ สติไวมาก ๆ มันรู้ทันหมดเลย จะขยับ จะหยิบ จะ กระพริบตา รู้ทันหมดเลย รถแซงซ้ายแซงขวา จะมาจะไป รู้ทันหมดเลย... ชักหงุดหงิด ไม่เอาแล้ว! ทาไม ล่ะ ? มันรู้เร็วเกิน อ้าว! กลายเป็นอย่างนั้นไป นี่คือความไม่เข้าใจ คือสมาธิดี พอเพิ่มสติเข้าไป จิตก็จะ คล่องแคล่วว่องไว บางที ถ้าเราสังเกต เหมือนเราไม่ต้องพยายามรู้เลย เขาทางานของเขาเอง เวลากาหนด อาการเกิดดับ เขาก็จะไปสนใจรู้อาการเกิดดับ ทาหน้าที่ของเขาเองโดยอัตโนมัติ แล้วเราก็ไปเบื่อเขา เขา อุตส่าห์ทางานแทนโดยที่ไม่ต้องใช้กาลังเเล้วนะ
จริง ๆ แล้ว ถามว่า เขาทางานแทนไหม ? เพราะความผ่องใสของจิต เพราะกาลังของสติ-สมาธิ- ปัญญาเราแก่กล้าขึ้น ธรรมชาติของจิตเรา พอมีพลังปุ๊บ ก็จะทางานรวดเร็วคล่องแคล่วว่องไว เป็นจิตควร แก่การงาน ใช้ประโยชน์ได้เยอะมาก ถ้าใช้ประโยชน์เป็นจะได้ประโยชน์เยอะเลย เป็นจิตที่เบาคล่องแคล่ว ว่องไวควรแก่การงาน กัมมัญญตา ถ้าปฏิบัตินี่โยคีจะเจอนะ เดี๋ยวถึงเวลาหนึ่งก็จะเจอเลย โอ้โห! สบายจัง เลย จะอยู่อิริยาบถไหนก็รู้หมด แม้แต่ฝันก็ยังกาหนดทันเลย! ฝันก็ยังลุกขึ้นมากาหนด รู้สึกตัวก็กาหนด กาหนด... อันนี้ความว่องไวของจิต เพราะฉะนั้น สติมีมากขึ้นเขาก็จะทางาน