Page 23 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 23
201
ของเราให้ได้เห็นให้ได้รู้ได้แยบคายมากขึ้น จะได้เห็นได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สภาวะที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร สภาวธรรมนั้น ทาไมถึงเห็นสภาวธรรมแล้ว ทาให้สภาพจิตเราดีได้อย่างไร ทาไมเห็นอาการพระไตรลักษณ์ แล้ว จิตรู้สึกสงบขึ้นได้ ทาไมเห็นอาการพระไตรลักษณ์แล้วจิตถึงตื่นตัว หรือตั้งมั่นมากขึ้น เห็นอาการเกิด ดับแล้วทาให้จิตเราตื่นตัวขึ้น ตรงนี้เราจะมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งถ้าเรากาหนดรู้ถึงทุก ๆ อาการ ถึงความไม่มีตัวตนของทุก ๆ อาการ ไม่ใช่ไม่มีลักษณะนะ ในคาว่าไม่มีตัวตน
คาว่าไม่มีตัวตนในที่นี้ หมายถึงว่าไม่รู้สึกว่ามีเรา ไม่รู้สึกว่าเป็นของเรา แต่ทุกอย่างยังชัดเจน เหมือนเดิม เห็นชัดเจน เห็นวัตถุก็ชัดเจน เห็นสภาพจิตชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าจิตยิ่งว่างนี่นะ ยิ่งชัดเจน มากขึ้น อะไรเกิดขึ้นมาก็จะมีความชัดเจน และจะทาให้เข้าถึงปรมัตถ์ได้ง่าย เพราะฉะนั้นขอให้ใส่ใจ
ต่อไปเดี๋ยวอาจารย์จะไม่ใช้เสียง จะให้เราพิจารณาสภาวธรรมที่กาลังปรากฏอยู่นี้ สัก ๒๐ นาที สัก ๒๐ นาที เพราะฉะนั้น ๒๐ นาทีจากนี้ไป อาจารย์จะไม่ใช้เสียง ขอให้เราตั้งใจรู้ กาหนดรู้สภาวธรรมที่ ปรากฏอยู่เฉพาะหน้า ให้ชัดเจนว่าเปลี่ยนไปอย่างไร...
เดี๋ยวแผ่เมตตาก่อนนะ ตอนที่คลายจากสมาธิจิตเรายังมีกาลัง สภาพจิตใจเรายังเป็นกุศลยังดีอยู่ น้อมถึงบุญกุศลที่เราได้ทา การแผ่เมตตาคือการแผ่ความสุข การแผ่เมตตาปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุข ก อ่ น ท จี ่ ะ ส ง่ ค ว า ม ส ขุ เ ร า ก ต็ อ้ ง เ ต มิ ค ว า ม ส ขุ ใ ห ก้ บั ต วั เ อ ง ก อ่ น ท า ใ จ ใ ห ว้ า่ ง แ ล ว้ น อ้ ม ถ งึ บ ญุ ก ศุ ล ท เี ่ ร า ไ ด ท้ า ร ะ ล กึ ถึงบุญกุศลที่เราได้ทา น้อมเข้ามาใส่ใจของเราให้เต็ม มาบริเวณหทยวัตถุ เติมความสุขลงไปในใจที่ว่าง ๆ ที่โล่ง ๆ เบา ๆ เติมลงไปให้เต็ม ให้เต็มจนล้นจากตัว พอจิตเรามีกาลังมีความสุขมีพลังบุญตรงนี้ พอล้น ออกมาแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานให้กับตนเอง
ดว้ ยอานภุ าพแหง่ บญุ นี้ จงมาเปน็ ตบะเปน็ พลวะเปน็ ปจั จยั ใหเ้ รามแี ตค่ วามเจรญิ มคี วามเจรญิ ใน ธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป จากนั้นก็แผ่ความสุขนี้ แผ่จิตที่มีความสุขนี้ให้กว้างออกไป ให้กว้างออกไปไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ ให้กว้างเท่าจักรวาล
แล้วตั้งจิตอธิษฐาน แผ่บุญกุศลอันนี้ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย เพื่อนร่วมโลกเกิดแก่เจ็บตาย เทวดาทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้และ ที่อื่น ๆ จงรับรู้ ถึงบุญกุศลที่เราได้แผ่ไปแล้วนี้ เมื่อรับรู้แล้วก็ขอให้อนุโมทนา เมื่ออนุโมทนาแล้วถ้ามีทุกข์ ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้ามีสุขก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกัน ก็ขอให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เพื่อความเจริญความผาสุกในชีวิตตลอดไป
และสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์กุศลผลบุญต่าง ๆ ที่เราได้ทามา ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษา ศีล การเจริญภาวนา ที่ทามาและกาลังทาอยู่นี้ จงมาเป็นตบะเป็นพลวะเป็นปัจจัย ให้เราทั้งหลายจงเป็น ผู้มีความเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้สาเร็จสมความปรารถนาทุก ๆ ประการ ตราบ เท่าเข้าสู่มรรคผลนิพพาน ด้วยกันทุกคนเทอญ