Page 46 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การเจาะสภาวะ
P. 46

224
ถา้ เรามเี จตนากา หนดรอู้ ยา่ งนี้ สภาวธรรมกจ็ ะความตอ่ เนอื่ งกนั ทตี่ อ่ เนอื่ งได้ กเ็ พราะสตเิ รามคี วาม ต่อเนื่อง มีเจตนาที่จะรับรู้อย่างต่อเนื่อง ที่ต่อเนื่องได้เพราะสติเรามีกาลังมากขึ้น ที่ต่อเนื่องได้เพราะสมาธิ เรามีกาลังมากขึ้น ตั้งมั่นขึ้นนั่นเอง เพราะฉะนั้น ที่ต่อเนื่องได้ เพราะเจตนานั่นคือตัวสาคัญ เจตนาคือตัว สาคัญ ที่จะใส่ใจถึงอาการเกิดดับ ของทุก ๆ อารมณ์อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น จะเปลี่ยนจากอารมณ์หนึ่ง ไปสู่อีกอารมณ์หนึ่ง เราก็สามารถเจาะสภาวะอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน
จากอาการเต้นของหัวใจ เปลี่ยนเป็นแสงสว่างเกิดขึ้นมาข้างหน้า มีความสว่างเกิดดับอยู่ข้างหน้า มีอาการวาบ ๆ ขึ้นมา วับขึ้นมา ๆ แม้จะพุ่งเข้ามาหาตัวหรือพุ่งออกไปข้างนอกก็ตาม นั่นก็คืออาการเกิด ดับที่ปรากฏขึ้นมา ในการเจาะสภาวะ ก็ให้ตามกาหนดรู้อาการเกิดดับ ที่กาลังปรากฏอยู่เฉพาะหน้านั้นจน หมดไป จนสิ้นสุดลง ไม่ว่าจะเข้ามา ๆ เกิดขึ้นมาจนชนหน้าเรา แล้วก็ดับไป หรือจะพุ่งออกไป พุ่งออกไป ไกล ๆ ๆ ออกไป เหลือเล็กนิดเดียว แล้วก็ดับไป ก็ตามกาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ นี่คือการเจาะสภาวะ เพราะฉะนนั้คาวา่เจาะสภาวะจึงหมายถงึการมเีจตนาที่จะรอู้าการเกิดดับของแตล่ะอารมณท์เี่กิดขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาถึงกฎไตรลักษณ์ ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ให้แยบคายยิ่งขึ้นนั่นเอง
ให้แยบคาย ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ให้แจ่มแจ้งมากยิ่งขึ้น เพื่อละความเคลือบแคลงสงสัย ละสักกาย ทิฐิ วิจิกิจฉา ละความเป็นตัวตน ละความลังเลสงสัยในธรรม เมื่อเราไม่มีความลังเลสงสัยในธรรมะ จิตจะ มีความมุ่งมั่น มีความแน่วแน่ในการกระทา รู้ชัดเจน ว่าการปฏิบัติธรรมแบบนี้ ทาให้จิตของเราดีแบบนี้ สติ ดีแบบนี้ ทาให้ความทุกข์ดับลงไปแบบนี้ นั่นคือมีความมั่นใจในธรรมะ ในคาสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น
ต่อไปเวลาเราทาอะไร...ปฏิบัติธรรม ก็ไม่ใช่แค่สักแต่ว่าปฏิบัติแบบผ่าน ๆ แต่เรารู้เป้าหมายชัดเจน รสู้ าระอยา่ งชดั เจนวา่ สงิ่ ทตี่ อ้ งทา สงิ่ ทที่ า นี้ ทา เพอื่ อะไร และทา ไมตอ้ งทา แบบนี้ และจา เปน็ แคไ่ หนทเี่ ราตอ้ ง ทา นนั่ จะเหน็ วา่ สา คญั แคไ่ หนในการปฏบิ ตั ธิ รรม การกา หนดรอู้ าการพระไตรลกั ษณ์ การชา ระจติ ใจตนเอง นั้น สาคัญแค่ไหน การไม่เข้าไปยึดติดในอารมณ์ต่าง ๆ นั้นสาคัญแค่ไหน การละอัตตา ละความเป็นเรานั้น สาคัญแค่ไหน ช่วยให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร นี่คือการพิจารณาสภาวธรรม การเจาะสภาวธรรม เพราะฉะนั้น ให้ตั้งใจ อย่าให้อารมณ์ไหนผ่านไป โดยไม่มีสติกาหนดรู้
อารมณไ์ หนกต็ าม ทปี่ รากฏชดั ขนึ้ มา ขอใหต้ งั้ ใจ มเี จตนาทจี่ ะเขา้ ไปกา หนดรใู้ หช้ ดั ทงั้ อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ จากกเิ ลส ไมม่ กี เิ ลส เกดิ ขนึ้ จากปญั ญา กพ็ จิ ารณาในกฎพระไตรลกั ษณแ์ บบเดยี วกนั เพอื่ ความชดั เจน ในตัวเอง แล้วเราจะเห็นชัด ความลังเลสงสัยในธรรมจะหมดไป เมื่อความลังเลสงสัยในธรรมหมดไป เกิด เป็นความศรัทธา เชื่อมั่น แน่วแน่ ตั้งมั่น ความศรัทธาอย่างแน่วแน่ ตั้งมั่นในคาสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลนจากจิตใจของเรา เราจะรู้ถึงความเป็นไป ความเป็นไปตามเหตุปัจจัยของอารมณ์ ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นไปตามความอยาก ทุก ๆ อย่าง เราอยากแล้ว ก็ไม่ได้เป็นไปตามความอยากทุกอย่าง เพราะเป็นธรรมชาติ
หน้าที่ของเรา คือทาเหตุปัจจัยให้ดีขึ้น ทาปัญญาให้มากขึ้น พิจารณาให้แยบคายมากขึ้น ถึงความ เป็นไป ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในทุก ๆ เรื่อง ในทุกอารมณ์ แต่ไม่ใช่ทา...พิจารณาจนเกิดความเครียด


































































































   44   45   46   47   48