Page 141 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 141
อยู่นอกเหนือคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้น การที่เรากาหนดรู้ในเบื้องต้น กาหนดรู้ถึงความเป็น คนละส่วนระหว่างกายกับจิต เป็นปัญญา เป็นวิธีการทาให้เราได้เห็นถึง ความจริง เป็นการละ ละความเข้าใจผิดความเห็นผิดที่เรียกว่าเป็นมิจฉา ทิฏฐิ ความเข้าใจผิดเห็นผิดว่าสิ่งนั้นเป็นของเที่ยง เป็นอัตตา เป็นของ เกิดขึ้นแล้วจะตั้งอยู่อย่างนั้นตลอดไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วคาว่า “ความเปลี่ยนแปลงของทุก ๆ อารมณ์” นั้น ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ก็มีการ เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงเรียกว่าลักษณะของสภาวะที่เสมอกันแก่สังขาร ทั้งปวง คือความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วการได้เห็นตรงนี้ การ พิจารณาถึงความจริงข้อนี้นี่แหละเป็นสัมมาทิฏฐิ
การไดเ้ หน็ ความจรงิ ตรงนที้ าไมถงึ เรยี กวา่ เปน็ สมั มาทฏิ ฐิ ? เพราะ เห็นแล้วทาให้จิตสงบขึ้น ความทุกข์ดับไป ความอิสระทางจิตค่อย ๆ เกิด ขึ้นมา ความผ่องใสของจิตจะค่อย ๆ เกิดขึ้นมา และความมหัศจรรย์ของ ธรรมะอย่างหนึ่งก็คือว่า บางครั้งเห็นชัดถึงความเป็นคนละส่วน จิตเกิด ความสว่างขึ้นมา เป็นความสว่างจริง ๆ ไม่ใช่แค่คิดว่าเข้าใจแล้วเรียกว่า สว่าง แต่เป็นจิตที่สว่างขึ้น บางครั้งเวลาจิตสว่าง เราจะรู้สึกว่าสว่างกว่า กลางวนั กม็ ี นนั่ คอื ลกั ษณะของจติ ทสี่ วา่ ง สวา่ งดว้ ยอะไร ? สวา่ งดว้ ยกา ลงั ของสติ สมาธิ และปัญญา เห็นถึงความเป็นจริง การเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ของสัจธรรมที่กาลังปรากฏนั่นเอง
ทีนี้ เมื่อเห็นถึงความจริงตรงนี้แล้วคิดว่าอย่างไร ? เราเป็นสาวก ถา้ อยากจะเดนิ ตามรอยพระบาทพระพทุ ธเจา้ จะทา อยา่ งไร ? เรากค็ วรตงั้ จิตที่จะทาให้ดียิ่งขึ้น รู้แล้วว่าทางที่จะออกจากทุกข์จริง ๆ เป็นอย่างไร ตั้ง จิตที่จะเพิ่มความเพียร มีความขยันหมั่นเพียรที่จะเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ
137
