Page 177 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 177
ความหนกั หรอื เบาตรงนี้ พจิ ารณาวา่ เพราะอะไรจงึ หนกั หรอื เบา... เมื่อไหร่ที่มีเรา เหมือนมีการแบก เป็นการยึด มีอุปาทานเข้าไปหลงแบก ยดึ เอาวา่ รปู นเี้ ปน็ ของเรา นาม/ตวั วญิ ญาณรกู้ เ็ ปน็ เรา สงั เกตดวู า่ แคค่ วาม เขา้ ใจผดิ /ความเหน็ ผดิ คดิ วา่ รปู นามนเี้ ปน็ ของเรากห็ นกั แลว้ ถงึ แมร้ ปู นาม นตี้ งั้ อยทู่ เี่ ดมิ และทา หนา้ ทขี่ องตนเปน็ ปกติ แตท่ า ไมถงึ รสู้ กึ หนกั มนี า้ หนกั เกิดขึ้น ? หนักแบบไหน ? ความหนักนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ? ความหนัก ที่เกิดขึ้นคือหนักอะไร ? ความรู้สึกหนักหมือนจิตใจนั้นได้แบกอะไรอยู่ สักอย่างหนึ่ง
พอกาหนดรู้ มีสติรู้ชัดถึงความเป็นคนละส่วนระหว่างรูปกับนาม ระหว่างกายกับจิต ยิ่งเห็นชัด...จิตเป็นอิสระมากขึ้น ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา รูปไม่บอกว่าเป็นเรา กลับรู้สึกว่ารูปนั้นว่างไปเบาไป มีน้าหนักที่เบาลง จิต กเ็ บาขนึ้ ถามวา่ เราไดว้ างอะไร ? วางความเขา้ ใจผดิ ไดล้ ะความเขา้ ใจผดิ / มจิ ฉาทฏิ ฐิ เหน็ ผดิ วา่ เปน็ ตวั เราของเรานนั่ เอง การทเี่ ราไดเ้ หน็ ความจรงิ ถงึ ความเป็นคนละส่วนระหว่างรูปกับนาม และเห็นความจริงอย่างหนึ่งคือ ไม่มีอะไรที่บอกว่าเป็นเรา เห็นความจริงคือความเป็นอนัตตา จิตจึงเกิด การคลาย จึงเกิดการวาง เป็นการปล่อยวางโดยปริยายโดยอัตโนมัติ
ยงิ่ กา หนดรู้ ยงิ่ ดจู ติ ทวี่ า่ ง จติ ทเี่ บา จติ ทเี่ ปน็ คนละสว่ นกบั กายนนั้ มีอานุภาพอย่างไร สามารถทาให้ว่าง ให้กว้าง ให้ไกล ให้มีกาลังมากขึ้นได้ อยา่ งไร ยงิ่ ดจู ติ ทวี่ า่ ง ยงิ่ ไมม่ อี ปุ าทาน จติ ยงิ่ ไมม่ ตี วั ตน ลองเขา้ ไปพจิ ารณา ดูว่าจิตที่ว่างจากตัวตนแล้วมีอานุภาพอย่างไร มีกาลังแค่ไหน ว่างแค่ไหน กว้างแค่ไหน ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ความไม่มีตัวตนคืออะไร ? คือ เป็นอนัตตา การเห็นความไม่มีตัวตน คือการละสักกายทิฏฐิ ความเห็นว่า เป็นเรา เป็นของเรา คาว่า “สักกายทิฏฐิ” คือความเห็นว่าเป็นเรา เป็นของ
173