Page 23 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 23

ได้เลย รูปนามที่เกิดขึ้น ที่เราเรียกว่าเป็นของเรา ไม่ว่าจะเป็นภายในหรือ ภายนอก ยึดไม่ได้เลย เกิดขึ้นแล้วดับไป เกิดขึ้นแล้วดับไป...
ใหม่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายว่าทาไมชีวิตนี้เรายึดอะไรไม่ได้ เลย เป็นของว่างเปล่าจริง ๆ จะคว้าอะไรก็ไม่ติด ก็จะเกิดความรู้สึก เบื่อหน่ายในโลก จะทาให้เราเบื่อหน่ายในการเวียนว่ายตายเกิด นั่นคือ ผลทจี่ ะตามมา จะทา ใหจ้ ติ เกดิ ความไมอ่ ยากจะเกดิ อกี แลว้ เบอื่ วฏั สงสาร และเมื่อสติ สมาธิ ปัญญาแก่กล้ายิ่งขึ้น เห็นการเกิดดับของรูปนามยิ่งชัด ขึ้น เข้าสู่ปรมัตถ์ยิ่งชัด ตอนนี้เปลี่ยนจากความเบื่อหน่ายกลายเป็นความ ผ่องใส เพราะอะไร ?
เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่ายึดไม่ได้ ก็ปล่อยให้มันดับไป ดับตาม ธรรมชาติ ดับตามธรรมชาติ... ยิ่งพิจารณายิ่งเห็นชัดเลยว่ารูปนามมีการ เกิดดับตลอดเวลา ยิ่งเห็นการเกิดดับยิ่งผ่องใส ตรงนี้จะทาให้นักปฏิบัติ มีความสุข มีความสนุก มีความเบิกบานในการปฏิบัติธรรม พร้อมที่จะ กาหนดรู้อาการเกิดดับตลอดเวลา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นว่ารูปนาม ดับไปในแต่ละครั้ง ในแต่ละขณะ จิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นจิตที่ผ่องใส มีความอิสระ มีความเบิกบาน มีความสว่างยิ่งขึ้น ไม่ถูกพันธนาการ ด้วยอะไรเลย นี่คือปัญญาอย่างหนึ่งที่นักปฏิบัติจะเห็น
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์ ทุกข์ข้อนี้เราควรทาให้ มาก เขาเรียกเป็น “ทุกข์ที่ควรเจริญ” คือทาให้มาก ให้เห็นมาก ๆ ให้เห็น บ่อย ๆ ถ้าเห็นทุกขณะจิตได้ก็จะยิ่งดี เราจะเห็นได้ทุกขณะจิตได้อย่างไร ? เป็นเรื่องยาก เห็นทุกขณะจิตไม่ใช่เป็นของง่าย แต่เห็นบ่อยที่สุดเท่าที่ จะทา ได้ การทจี่ ะเหน็ บอ่ ยทสี่ ดุ กด็ ว้ ยการ “กา หนดตน้ จติ ” ของเรา กา หนด ต้นจิตแล้วสังเกตทุก ๆ อาการที่ปรากฏขึ้นมาเฉพาะหน้าเรา พร้อมที่จะรู้
19


































































































   21   22   23   24   25