Page 70 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 70
66
การที่เรารู้ถึงเหตุและผลตรงนี้ พิจารณาอย่างต่อเนื่องจนจบ กระบวนความ เราจะเห็นว่าสิ่งที่ปรารถนาที่สุดแล้ว ผลสุดท้ายของชีวิตที่ ละโลกนี้ไป เราจะอาศัยอะไรได้บ้าง ? อาศัยรูปนี้ไปได้ไกลแค่ไหน ? พอ ถามจริง ๆ ก็คือ รูปอันนี้บางทีพอถึงเวลา เราก็ไม่ยินดีกับเขาด้วยซ้าไป อยากมรี ปู ใหมท่ ดี่ กี วา่ นี้ ทดี่ กี วา่ ทเี่ ปน็ อยู่ เกดิ ใหมก่ อ็ ยากมรี ปู ใหมท่ ดี่ กี วา่ นี้ ดกี วา่ ทเี่ ปน็ อยู่ แตร่ ปู เหลา่ นกี้ ม็ คี วามเปลยี่ นไปตามกรรมของเรา แตส่ งิ่ ที่งดงามที่สุดคือ “สภาพจิต” ของคนเรา
สภาพจิตใจที่สามารถพัฒนาได้ทุก ๆ ขณะ ที่สามารถกาหนดรู้ เพิ่มพลัง ทาจิตของเราให้งดงาม ให้ผ่องใสมีความสงบ มีความสะอาด มี ความสว่าง นิ่มนวลอ่อนโยน ละเอียดอ่อน มากขึ้นเพิ่มขึ้นได้ในปัจจุบัน และทาได้ด้วยตัวเอง นั่นคือทาจิตของตนให้งดงาม แล้วจิตที่เต็มไปด้วย ความสุข เต็มไปด้วยบุญ ก็จะทาให้ความคิดเป็นความคิดที่ประกอบด้วย เจตนาที่เป็นบุญ เป็นบุญ...อยู่เสมอ นั่นคือจิตที่งดงาม แล้วจิตดวงนี้จะ ทาให้ชีวิตของเรามีความสุข อยู่ที่ไหนก็มีความสุข จะยืนจะเดินจะนั่งจะ นอนกม็ คี วามสขุ มคี วามงดงามมคี วามมนั่ คงมคี วามไมห่ วนั่ ไหวมคี วาม อิสระ มีความเบิกบาน หรือผ่องใสในตัวของตัวเอง
สงิ่ เหลา่ นเี้ ราหาไดใ้ กล้ ๆ ภายในจติ ใจของเราเอง เพราะฉะนนั้ เรา ลองมาพิจารณาดูศึกษาดูกายใจรูปนามขันธ์ห้าที่ว่าเป็นตัวเราของเรา ถ้า พิจารณาเห็นความจริงตรงนี้ชัดมากขึ้น ถึงกฎธรรมชาติ ถึงความเป็นไป ถึงกฎของไตรลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป ความเป็น อนจิ จงั -ทกุ ขงั -อนตั ตา ของรปู นามอนั นี้ ยงิ่ เหน็ ความจรงิ ของขอ้ นมี้ ากเทา่ ไหร่ จิตใจกลับรู้สึกมั่นคง ผ่องใส และเบิกบาน มีความสุข มีความตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวกับอารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามา
