Page 76 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 76

72
นั่นก็คือพิจารณาสภาวธรรมที่เป็นอาการของรูปนามขันธ์ห้าจริง ๆ เป็น อาการของรูปนามขันธ์ห้าตามธรรมชาติที่เป็นกฎของไตรลักษณ์ คือ สัจธรรมของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป นี่ก็คือ แกน่ ธรรมหรอื หวั ใจของธรรมะจรงิ ๆ เปา้ หมายสงู สดุ ของการปฏบิ ตั ธิ รรม ที่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานคือ การดับทุกข์/การออกจากทุกข์อย่าง สิ้นเชิง หรือออกจากวัฏสงสาร
เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายได้มาประชุมกันมาร่วมกันน้อมระลึก นกึ ถงึ องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ในวนั สา คญั อยา่ งนี้ เรอื่ งศลี ตา่ ง ๆ เรากอ็ ยใู่ นศลี เปน็ เรอื่ งปกติ สงิ่ ทตี่ อ้ งทา เพมิ่ คอื อะไร ? คอื ศลี มแี ลว้ กเ็ พมิ่ สมาธิ เพิ่มปัญญา พิจารณาถึงสภาวธรรมที่จะพาเราไปสู่เป้าหมายสูงสุด ของชีวิตเรา ไปสู่จุดไหน ? คือการชาระจิตของตนให้ขาวรอบ สจิตตปริ- โยทปนัง เราทาอย่างไรถึงจะชาระจิตของเราให้ขาวรอบได้ ? คาว่า “จิต” ตรงนี้มีสองส่วน หนึ่ง ก็คือเรื่องของความคิด จิตใจของเรา จิตวิญญาณ การรู้จักคิดในสิ่งที่ดี มีเจตนาที่บริสุทธิ์ คิดในความเป็นกุศล ทาให้จิต เบิกบานผ่องใส ให้เกิดปัญญา มีความสว่างเกิดขึ้นภายในจิตใจ อีกอย่าง หนึ่งก็คือ การชาระจิตเราด้วยการพิจารณาสภาวธรรมที่กาลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบันจริง ๆ ณ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้
สภาวธรรมที่ปรากฏเกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ คืออะไร ? ก็คืออาการของรูปนามขันธ์ห้า อย่างเช่น เรานั่งหลับตาปฏิบัติธรรม พิจารณาอาการของรูปนามขันธ์ห้า อาการเกิดดับของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือที่เราเรียกว่า “การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน” การ เจรญิ วปิ สั สนากรรมฐานนนั้ เปา้ หมายเพอื่ การพฒั นาปญั ญา ทา ใหม้ ปี ญั ญา เกิดขึ้นภายในจิตใจของเรา หรือเป็นการพัฒนาปัญญาของเราให้เข้าใจ


































































































   74   75   76   77   78