Page 82 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 82

78
เขาเป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ? อันนี้คือการพิจารณากาหนดรู้ ต่อไปตามลาดับในการพิจารณาเรื่องของขันธ์ห้า ตัววิญญาณขันธ์คือ ตัววิญญาณรู้/ตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้กับเวทนาขันธ์ที่กาลังปรากฏ เขาเป็น ส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ?
เริ่มต้นพิจารณาว่าเขาเป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน เมื่อ เห็นเป็นคนละส่วนกันก็ตั้งคาถามเหมือนเดิมนั่นแหละ เวทนาขันธ์ที่เกิด ขนึ้ เขาบอกวา่ เปน็ เราหรอื เปลา่ ? หรอื วา่ เปน็ แคเ่ วทนาทเี่ กดิ ขนึ้ มา ทา หนา้ ที่ ของตน ? เวทนาตรงนี้คืออะไร ? เวทนาขันธ์มีเวทนาทางกายกับเวทนา ทางจติ เวทนาทางกาย คอื ความเจบ็ ปวด เมอื่ ย ชา คนั ตรงนเี้ ปน็ ลกั ษณะ ของเวทนาทางกาย เวทนาทางจิต คือสุข ทุกข์ อุเบกขา โทมนัส โสมนัส มีห้าอย่าง เราพิจารณากาหนดรู้ว่า แล้วจิตที่ทาหน้าที่รู้หรือตัววิญญาณรู้ กับเวทนาขันธ์ เป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน ?
เมื่อกาหนดรู้เห็นชัดว่าเป็นคนละส่วนกัน แล้วตัววิญญาณขันธ์ ไม่บอกว่าเป็นเรา แล้วเวทนาขันธ์บอกว่าเป็นใครไหม เป็นของใครหรือ เปลา่ ? หรอื เปน็ เพยี งสภาวธรรมอยา่ งหนงึ่ ทปี่ รากฏเกดิ ขนึ้ มาทา หนา้ ทขี่ อง ตนของตน แล้วก็ดับไป มีแล้วหมดไป มีแล้วหายไป เป็นไปตามเหตุและ ปัจจัยที่กาลังปรากฏเกิดขึ้นมีอยู่นั่นเอง ? เพราะฉะนั้น การที่เรากาหนดรู้ ตรงนี้ ศึกษาพิจารณาความเป็นไปของรูปนามขันธ์ห้าในลักษณะอย่างนี้ เพื่ออะไร ? ก็เพื่อคลาย คลายความเข้าใจผิด เขาเรียก “ตัวมิจฉาทิฏฐิ” ความเห็นผิด ความเข้าใจผิด ว่ารูปนามขันธ์ห้านั้นเป็นตัวเราของเรา เพื่อคลายอุปาทาน เพื่อการคลายการละการเข้าไปยึดมั่นถือมั่นในรูปนาม ขันธ์ห้านั่นเอง


































































































   80   81   82   83   84