Page 84 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 84
80
เป็นจริง ทาไมพระองค์จึงทรงตรัสว่า รูปนามอันนี้ประกอบด้วยขันธ์ทั้งห้า ทเี่ ราคดิ วา่ เปน็ เราเปน็ คนเดยี วกนั แตพ่ ระองคแ์ ยกถงึ ความเปน็ คนละสว่ น เป็นขันธ์ทั้งห้าออกมาให้เราได้ศึกษา ให้เราได้เห็น ให้เราได้พิจารณาตาม เมื่อได้พิจารณาตามแล้ว ลองดูสิว่า ขันธ์ที่เกิดขึ้น การปรุงแต่งต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นเขาบอกว่าเป็นเรา หรือว่าเป็นอย่างไร ? แม้แต่รูปขันธ์นี้ยังไม่บอก ว่าเป็นเรา แล้วนามขันธ์ การปรุงแต่งทางจิตที่เกิดขึ้น มีอะไรบ้างที่บอก ว่าเป็นของเรา ?
เคยสังเกตไหมว่า บางเรื่องเราไม่อยากคิดไม่อยากปรุงแต่ง อยู่ ๆ เขาก็ปรุงแต่งขึ้นมาเพราะอาศัยเหตุปัจจัยที่เข้ามากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบทางทวารทั้งหก แล้วก็ปรุงแต่งต่อไป ทั้ง ๆ ที่ไม่อยาก ปรงุ แตง่ กป็ รงุ แตง่ ตอ่ ถามวา่ เขาบอกวา่ เปน็ ของเรา ของเขา ของใคร หรอื เป็นเพียงขันธ์ ๆ หนึ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้นเอง ? นี่ คือสัจธรรมความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่พระองค์ตรัสอย่างนี้อยู่แล้ว บางทีเราก็ไม่ได้น้อมนาคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาศึกษาทาความเข้าใจให้จริงจังว่า การที่เราจะปฏิบัติธรรม เดินทางไป สู่ความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงนั้นควรจะรู้อะไร จะพิจารณาอะไรถึงจะหลุด พ้นจากวงจรจากวัฏสงสารได้
ทงั้ ๆ ทพี่ ระองคท์ รงตรสั เรอื่ งของรปู นามขนั ธห์ า้ ซงึ่ เปน็ สงิ่ ทมี่ นษุ ย์ และสัตว์ทั้งหลายเข้าไปยึดมั่นถือมั่นและคิดว่าเป็นของเที่ยง ปล่อยยาก ที่สุดก็คือรูปนามขันธ์ห้านี่แหละ ทั้งรูปนามขันธ์ห้าที่บอกว่าเป็นตัวเราของ เรา คือรูปนามขันธ์ห้าภายใน และรูปนามขันธ์ห้าภายนอก ที่บอกว่าเป็น ตัวคนอื่นของคนอื่นนั่นแหละ จริง ๆ แล้วรูปนามขันธ์ห้าอันนี้กลับไม่ได้ บอกวา่ เปน็ ของใครเลย นคี่ อื สจั ธรรมอยา่ งหนงึ่ อกี อยา่ งหนงึ่ ทพี่ งึ พจิ ารณา