Page 33 - เวทนา
P. 33
27
มีความอิ่มใจเกิดขึ้นมา นั่นเกิดจากปีติที่ได้เห็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นจริง ๆ สามารถสัมผัสและ เข้าถึงได้ว่า “เวทนาเป็นอนัตตา ไม่ใช่ของเรา” นั้นเป็นอย่างน้ีนี่เอง ผู้ที่สามารถแยกรูปนามได้แล้ว ก็ยกจิตข้ึนสู่ความว่าง แล้วให้เวทนา ปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ เลยก็ได้ กว้างกว่ารูป ให้รู้สึกว่ารูปน้ีตั้งอยู่ท่ามกลางความว่าง ความสงบ ความเบา ความใส หรือความสว่าง อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ไม่ต่างกัน เพราะเมื่อจิตเห็นชัด ถึงความเป็นคนละส่วนระหว่างเวทนาท่ีเกิดข้ึนกับจิตที่ท�าหน้าที่รู้แล้ว ท�าให้ผู้ปฏิบัตินั้นไม่เข้าไปยึดเอาเวทนานั้นเป็นของเรา การยกจิตข้ึนสู่ความว่าง ละความเป็นเรา แล้วก็พิจารณาอาการของเวทนาที่ปรากฏเกิดขึ้นมา สู่ความว่างแล้วรู้สึกว่านั่งอยู่ในท่ีว่าง ๆ ไม่มีรูป มีแต่อาการของเวทนา
‘ แตไ่ มว่ มว่ มว่ า่ า่ เวทนาจะปรากฏทจี่ ดุ ไหนกต็ าม าม าม าม โยคจี ะตอ้ งสงั เกตวา่ เวทนาปรากฏ เวทนาปรากฏ อยู่ในความว่าง เวทนาปรากฏอยู่ในบรรยากาศของความสงบ เวทนา เวทนา เวทนา เวทนา เวทนา ปรากฏอยู่ในความเบา หรือเวทนาปรากฏเกิดขึ้นมาอยู่ในบรรยากาศของ ความรู้สึกท่ีใส รอบ ๆ เวทนาก็สงบใส ฯลฯ อันนี้เป็นสภาวธรรมที่ต่างกันไป รูปว่างเปล่าที่ปรากฏขึ้นมาเป็นอะไร ? เป็นสุญญตา หรือเป็นอรูป ไม่มีรูป รูปว่างไป เกิดจากจิตคลายจากอุปาทาน เกิดจากจิตเพิกรูปบัญญัติออกไป “รูปบัญญัติ” ในที่นี้คือความเป็นรูปร่าง ความเป็นกลุ่มก้อนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนก็ตาม รู้สึกว่าว่างไปหมดหรือหายไป เม่ือเห็นรูปขันธ์นั้น ว่างไปหายไป จิตคลายจากอุปาทานอย่างชัดเจน เหลือแต่อาการของ เวทนาขันธ์ที่ปรากฏเกิดขึ้นมา