Page 43 - เวทนา
P. 43
37
ไม่ว่าธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุดินปรากฏขึ้นมา ปรากฏอยู่เฉพาะหน้า อาการของธาตุที่ปรากฏเป็นลักษณะของสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้ เกิดจากการปรุงแต่ง ไม่ได้เกิดจากอกุศลจิต ไม่ได้เกิดจากความโกรธ ความหงุดหงิด ความไม่พอใจ แตเ่ กดิ กดิ จากการกา หนดรสู้ ภาวธรรมทเี่ ปน็ ปจั จบุ นั ขณะสภาวธรรมทเ่ี กดิ กดิ ขนึ้ จึงเป็นสภาวธรรมที่เป็นกุศล เกิดจากปัญญาในการเจริญกรรมฐาน ที่มีความเพียรมีความมุ่งมั่นในการพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ การกา หนดรถู้ งึ การเกดิ ขนึ้ -ตงั้ อย-ู่ ดบั ไป
นแ่ี หละคอื “พจิ ารณาโดยแยบคาย อย่างต่อเนื่อง” จากเวทนาเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่นข้ึนมา แบบเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นอาการเกิดดับของความปวด ไม่ว่าจะเป็นการเกิดดับของ ความเครง่ ตงึ ไมว่ า่ จะเปน็ อาการเกดิ ดบั ของธาตขุ องความรอ้ นทเี่ กดิ กดิ ขน้ึ มา กก็ า า า า า า า า า า หนดตอ่ เนอื่ งไดเ้ ชน่ เดยี วกนั อนั นพ้ี ดู ถงึ ความตอ่ เนอ่ื งของสภาวธรรม แต่สภาวธรรมอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า โดยส่วนใหญ่แล้วขณะท่ี ถ้าต่อสู้กับความปวด ประมาณหนึ่ง ๑๐ นาที นาที นาที นาที ๒๐ นาที นาที นาที นาที หรือ ๓๐ ๓๐ นาที นาที นาที นาที ถ้าต่อเนื่องจริง ๆ ๓๐ ๓๐ นาที นาที นาที นาที ส่วนใหญ่แล้วโยคีก็จะหมดแรง คือรู้สึกเหน่ือยล้า พอเวทนา บรรเทาเบาบางลง จิตก็จะนิ่งสงบ เงียบไป หรือหลับไปชั่วระยะหนึ่ง หรือมี อาการตกภวังค์ไปเป็นระยะ ๆ ไม่ตื่นตัว ถ้าเจอสถานการณ์อย่างน้ันก็ไม่ต้องกังวล ให้ถอยจิตออกมาจากเวทนา กลับมาน่ิงที่บริเวณรูปบริเวณหทยวัตถุนี่แหละ ถึงแม้ไม่มีรูปก็ตาม ให้มารู้ นิ่งอยู่ท่ีรูปบริเวณหทยวัตถุที่มีความสงบมีความเงียบ คือพอถอยออกมา