Page 503 - ธรรมปฏิบัติ 1
P. 503
485
นั่นคือคาตอบ
ถามว่า เขาเกิดอย่างนี้มีด้วยเหรอ ? ก็เขาตอบอยู่นั่นเองว่าเขาเป็น
อย่างนี้! แล้วเราก็ อ้าว เป็นไปได้เหรอ ? แสดงว่าเราคิดว่าไม่น่าจะเป็น ไปได้ หรือไม่คิดมาก่อนว่าแบบนี้ก็มี ถึงแม้เราจะไม่คิดมาก่อนว่าแบบนี้ก็มี นั่นคือเขาแสดงให้รู้ว่า สิ่งที่เรายังไม่รู้ เขาก็มีได้ เขาก็เกิดได้ แม้สิ่งที่เราไม่ คิดว่าจะมี เขาก็ปรากฏได้ มันเป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง สภาวะอันนี้บอกอะไร ? บอกว่ามันเกินจินตนาการของเรา ที่เรียกว่าเป็น “อจินไตย” เราจะคิดเดา ไปก่อนล่วงหน้าไม่ได้ ฉะนั้น จึงต้องรู้กับปัจจุบันจริง ๆ ว่าเขาเกิดแบบนี้ แบบนี้ เป็นอย่างนี้
สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ เมื่อเห็นอาการอย่างนั้นเกิดขึ้นมาแล้ว ส่งผลต่อจิตใจ เราอย่างไร ? การที่เราเห็นอะไรต่างออกไป ทาให้เราเข้าใจอะไรได้บ้าง ? จริง ๆ แล้วเขาบอกว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจ และเราไม่รู้ เขาก็ เกิดขึ้นได้ในชีวิตของเรานั่นแหละ ไม่ใช่แค่ในสมาธิ ไม่ใช่แค่ในการปฏิบัติ สิ่งที่เรายังไม่รู้ก็เกิดขึ้นได้ มีได้ เพราะฉะนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด ไม่ใช่ เกิดขึ้นไม่ได้ สามารถเป็นไปได้ แต่จะเป็นไปในลักษณะอย่างไรนั้นอีก อย่างหนึ่ง
เพราะฉะนั้น สภาวธรรมที่เกิดขึ้น จึงเน้นให้กาหนดรู้ว่า ดูสิว่าต่อ จากนี้เขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่ได้บอกว่าต้องทาให้เป็นแบบนี้นะ สิ่งที่ ต้องทาให้เป็นแบบนี้มีอย่างเดียวคือ ให้มีสติให้ต่อเนื่องนะ กาหนดต้นจิต ให้ไว ต้องทาแบบนี้ให้ได้ ถ้าทาได้จะดี! แต่ถ้าทาไม่ได้แล้วเป็นอย่างไร ? ทา ไม่ได้ก็ไม่ได้นั่นแหละ! ถ้าทาได้แล้วเป็นอย่างไร ? ดีแน่นอน!
จริง ๆ แล้ว ถ้ากาหนดต้นจิตได้มาก ๆ ดีอย่างไร ? นั่นแหละ คือคาถาม เราต้องหาคาตอบ ผลดีอะไรบ้างที่เกิดขึ้นกับเรา ? เมื่อมีสติรู้ต้น จิตให้มากขึ้นแล้ว สภาพจิตเราเป็นอย่างไร ? สติเป็นอย่างไร ? กาลังเป็น อย่างไร ? นอกจากนี้ สติการรู้เท่าทันอารมณ์เป็นอย่างไร ? อายุอารมณ์